“รุกขเทวดา”...เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คนไทยรู้จักกันดี เชื่อว่าต้นไม้ใหญ่จะมีรุกขเทวดาสถิตอยู่ ซึ่งไม่ควรทำลายต้นไม้เหล่านั้น เพราะหากทำเช่นนั้น อาจจะถูกอาถรรพณ์ของรุกขเทวดาทำให้ประสบกับภัยร้ายจนถึงขั้นเสียชีวิต
“รุกขเทวดา” คือ เทวดาประเภทหนึ่งที่มีรูปลักษณ์งดงามเหมือนเทพธิดาหรือเทพบุตร... แต่ไม่สถิตในสวรรค์ แต่กลับอาศัยอยู่ในต้นไม้แทน โดยชาวฮินดูนับถือรุกขเทวดาอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะในหมู่บ้านที่มีต้นไม้ใหญ่ มักจะมีการบูชาด้วยเครื่องหอม ขนมหวาน นมสด และผลไม้ โดยจะไม่ถวายอาหารคาว
สำหรับรุกขเทวดามักจะไม่มีการสร้างเทวาลัยพิเศษ แต่มักมีการประดับตกแต่งต้นไม้ด้วยเครื่องเจิมหลากหลายสีสัน เครื่องสักการะ หรือแม้แต่พวงมาลัยดอกไม้สด
ในสมัยโบราณคนไทยมักจะเตือนกันว่า ห้ามตัด “ต้นไม้ใหญ่” ทิ้ง แม้ว่าจะจำเป็นต้องตัดก็ต้องทำพิธีขอขมาและขออนุญาตจากรุกขเทวดาก่อน เนื่องจากเชื่อว่าต้นไม้ใหญ่เหล่านี้มีเทพารักษ์สถิตอยู่

ยังมีความเชื่อว่าต้นไม้เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีวิญญาณสิงอยู่ หากตัดกิ่งหรือลำต้นของต้นไม้แล้วมียางไหลออกมา ถือเป็นเลือดของต้นไม้ ดังนั้นการตัดต้นไม้แต่ละครั้งควรขออนุญาตจากต้นไม้ก่อน หากต้องการตัดแค่กิ่งก้านไม่ใช่ทั้งต้น ควรใช้มือสัมผัสที่ลำต้นก่อน
ให้จินตนาการว่าเรากำลังตัดกิ่งไม้ที่ตำแหน่งที่ต้องการ หากเกิดความรู้สึกไม่ดีที่มือ ให้ระมัดระวังในบริเวณนั้นให้มากที่สุด และสังเกตหากตัดแล้วไม่มียางไม้ไหลออกมา ก็ถือว่าเสร็จสิ้นการตัด
หากต้องตัดต้นไม้ทั้งต้นก็ให้ทำเช่นเดียวกัน โดยกล่าวกับต้นไม้ว่าขอให้ไปหาที่อยู่อาศัยใหม่ บางครั้งอาจจะปลูกต้นใหม่ทดแทน หรือสร้างศาลเจ้าที่เพื่อให้เกียรติแก่ต้นไม้ที่ถูกตัด

ต้องระวังขณะขุดรากให้หมดสิ้น อย่าให้เหลือตอไม้ไว้เด็ดขาด เพราะการสร้างบ้านทับตอไม้ถือว่าเป็นลางไม่ดีและเป็นอัปมงคล
นักปราชญ์เกี่ยวกับต้นไม้ได้กล่าวไว้ว่า ทุกครั้งที่ต้องตัดต้นไม้ควรท่องพระคาถาตัดต้นไม้ ซึ่งคาถามีดังนี้ “หิริโอตฺตปฺปสมฺปนฺนา สุกฺกธมฺมสมาหิตา สนฺโตสปฺปุริสา โลเก เทวธมฺมาติ วุจฺจเร”
@@@@@@
ความเชื่อมีอยู่มากมายหลากหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องบาปบุญ การเซ่นไหว้หรือบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ความเชื่อในเทพเจ้า เครื่องรางของขลัง หรือแม้แต่ความเชื่อที่เกี่ยวกับพืชที่ถือเป็นมงคลและอัปมงคล ซึ่งมีการเชื่อกันว่าพืชบางชนิดจะนำมาซึ่งสิ่งดี ๆ และบางชนิดก็เชื่อว่าไม่ดี
สามารถกล่าวได้ว่า ชื่อของพันธุ์ไม้บางชนิดมีความเกี่ยวพันกับความเชื่อและศรัทธาที่ว่าไม้เหล่านั้นจะนำมาซึ่งความสุข ความมงคล ความปลอดภัย หรือแม้กระทั่งการปลูกต้นไม้รอบบ้านตั้งแต่โบราณ ก็เพื่อประโยชน์ในด้านโชคลาภ เมตตามหานิยม หรือป้องกันภัยต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้น

โดยเฉพาะต้นไม้ที่มีชื่อมงคลนั้น มีความเชื่อว่าจะช่วยเสริมขวัญและกำลังใจให้กับผู้ปลูกทางอ้อม
คนโบราณกล่าวว่า ต้นโพธิ์ต้นไทรนั้นช่วยให้ความร่มเย็นเป็นสุข และยังเชื่อว่ามีคุณสมบัติในการคุ้มครองจากอันตรายต่าง ๆ โดยบางคนเชื่อว่าต้นไทรเป็นต้นไม้ที่มีความศักดิ์สิทธิ์
มี “เทพารักษ์” คอยปกป้องและดูแลอย่างใกล้ชิด
@@@@@@
“การตัดต้นไม้ใหญ่ที่มีอายุกว่าร้อยปีต้องมีการจุดธูปบอกกล่าวเทพยดาและอารักษ์ เพื่อความเป็นสิริมงคล ห้ามทำโดยไม่ได้รับอนุญาต” ลุงแมว วัย 62 ปีผู้มีประสบการณ์แนะนำด้วยน้ำเสียงหนักแน่นและมั่นใจ
การกระทำเช่นนี้หากใครไม่เชื่อก็อย่าพยายามลบหลู่ โดยเฉพาะผู้ที่จะมาตัดต้นไม้ ทั้งเจ้าของต้นไม้เองหรือลูกจ้างที่มาตัด ควรจุดธูปและอธิษฐานบอกกล่าวสิ่งศักดิ์สิทธิ์และเจ้าที่เจ้าทางก่อน เพื่อให้การทำงานนั้นราบรื่นและสำเร็จ
นอกจากนี้การตัดต้นไม้ยังเป็นการทำให้พื้นที่รอบๆ สะอาดและเป็นระเบียบขึ้น ตัวอย่างล่าสุดคือ ลุงแมวเล่าเรื่องบ้านที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำปราจีนบุรี ต้นมะม่วงโบราณอายุเกินร้อยปี ที่โคนต้นถูกน้ำท่วมขังมานาน
หลังจากน้ำท่วมมาหลายปี รากต้นไม้ที่ยึดลำต้นสูงใหญ่ไม่สามารถทนได้ จนทำให้ต้นไม้โค่นลงไปอย่างน่าอัศจรรย์ แม้เจ้าของบ้านจะนอนอยู่ในบ้านแต่กลับไม่ได้ยินเสียงใดๆ เลย ไม่รู้ด้วยว่าต้นไม้ล้มลงในช่วงเวลาไหน หากต้นไม้ล้มผิดทิศ หลังคาบ้านอาจจะเสียหายอย่างหนัก

โชคดีที่ต้นไม้ล้มมาเฉียดหลังคาเพียงนิดเดียวเท่านั้น ส่วนตัวเชื่อว่าเป็นการช่วยเหลือจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ปกป้องไม่ให้ต้นไม้โค่นลงมาทำลายหลังคาบ้าน...
“ผมเชื่อจริงๆว่า...มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญอย่างแน่นอน”
ที่สำคัญบริเวณโคนต้นไม้ยังมีศาลเจ้าที่ตั้งอยู่ด้วย รากต้นมะม่วงโบราณที่แผ่กว้างทำให้ศาลเสียหายไปด้วย แต่ด้วยความเชื่อและศรัทธาที่มี เชื่ออย่างมั่นใจว่า... เจ้าที่เจ้าทางและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยให้ต้นไม้ไม่ทำให้บ้านเสียหาย
การที่เจ้าบ้านไม่ต้องเจอความเดือดร้อนใดๆ ก็อาจจะกล่าวได้ว่า “เจ้าบ้าน” ปลอดภัย เทพยดาก็คอยคุ้มครอง ให้ชีวิตดำเนินไปอย่างราบรื่นและมีความสุข ไร้ทุกข์ใดๆ
การจุดธูปบอกกล่าวถึงการตัดทอนต้นไม้และการเตรียมจัดตั้งศาลเจ้าที่ใหม่หลังจากเคลียร์งานเสร็จและน้ำลดลง ถือเป็นการทำพิธีเพื่อความเป็นสิริมงคลให้กับทั้งคนที่ทำการตัดต้นไม้และเจ้าของบ้าน
เหตุการณ์ลักษณะนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ หลายๆ คนในพื้นที่อำเภอบ้านสร้าง จังหวัดปราจีนบุรีคงพอทราบถึงต้นตาลที่อยู่ข้างโบสถ์วัดบ้านสร้าง ที่เคยเอียงจนดูเหมือนจะล้มไปทับโบสถ์ แต่เมื่อมันล้มลงกลับเบี่ยงทิศทางไปในทางที่ไม่คาดคิด

...โดยที่มันไม่ไปโดนโบสถ์เลยแม้แต่น้อย ถือเป็นปาฏิหาริย์เหนือธรรมชาติที่ยากจะอธิบาย
ในช่วงที่ต้นตาลเอียงมาใกล้โบสถ์มากจนทุกคนคิดว่ามันคงจะล้มทับโบสถ์แน่ๆ แต่พอถึงเวลาแล้วกลับโค่นไปอีกทิศทางไปอยู่ตรงถนนแทน ทำให้ผมเชื่ออย่างเต็มใจว่า “หลวงพ่อดำ” ในโบสถ์ท่านมีความศักดิ์สิทธิ์จริงๆ
“ศรัทธา” คือแรงผลักดันสู่ “ปาฏิหาริย์” ไม่ว่าจะเชื่อหรือไม่ โปรดอย่าลบหลู่
รัก-ยม