ในปัจจุบัน สังคมทั่วโลกได้ให้ความสำคัญกับการปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างเท่าเทียม ไม่ว่าจะเป็นเพศเดียวกันหรือเพศตรงข้าม เพื่อสร้างความเสมอภาคทางสังคม การแสดงออกและการใช้คำเรียกแทนกลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศจึงได้รับความสนใจ โดยในหลายประเทศเริ่มใช้คำว่า แอลจีบีที (LGBT) เพื่อแสดงถึงความแตกต่างในเรื่องของเพศและอัตลักษณ์ทางเพศได้อย่างไม่เลือกปฏิบัติ
แอลจีบีที (LGBT) คือใคร

แอลจีบีที (LGBT) คือกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ คำว่า L G B T ย่อมาจาก Lesbian, Gay, Bisexual และ Transgender แต่ยังมีตัวอักษรเพิ่มเติมที่ถูกนำมาใช้ เช่น
- แอลจีบีทีคิว LGBTQ ตัว Q ย่อมาจาก Queer
- แอลจีบีทีไอ LGBTI ตัว I ย่อมาจาก Intersex
- แอลจีบีทีคิวเอ LGBTQA ตัว A ย่อมาจาก Asexual หรือ Aromantic หรือ Ally
คำว่า แอลจีบีที (LGBT) หรือ จีแอลบีที (GLBT) เริ่มถูกใช้ในทศวรรษที่ 1990 โดยมาจากกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ ได้แก่ Lesbian, Gay, Bisexual และ Transgender ซึ่งเกิดจากความต้องการให้คำว่า LGB มาแทนคำว่า Gay ที่ใช้กันมาก่อนในกลุ่ม LGBT Community ที่เริ่มก่อตั้งในช่วงปลายทศวรรษที่ 1980 จึงเริ่มมีการกำหนดสัญลักษณ์ต่างๆ ที่ใช้แสดงตัวตนและความหลากหลายทางเพศ รวมถึงการใช้ธงสีต่างๆ เพื่อสื่อถึงความหลากหลายเหล่านี้

เมื่อกล่าวถึง ประเภทของ LGBT จะเห็นได้ว่ามีการกำหนดกลุ่มต่างๆ ที่มีความหมายและความเข้าใจในระดับโลก ตัวอย่างของกลุ่มที่ได้รับการยอมรับและมีชื่อเสียง ได้แก่
- Aromantic คือ ผู้ที่ไม่รู้สึกดึงดูดหรือสนใจในเรื่องเพศ และไม่ต้องการมีความสัมพันธ์กับใคร
- Asexual คือ ผู้ที่ไม่สนใจเรื่องเซ็กซ์
- Bisexual คือ ผู้ที่สามารถรักหรือดึงดูดทั้งเพศชายและเพศหญิง ไม่ว่าจะเป็นเพศเดียวกันหรือเพศตรงข้าม
- Gay men คือ ผู้ชายที่มีความรักหรือดึงดูดผู้ชายด้วยกัน
- Genderqueer คือ ผู้ที่ไม่ยึดติดกับอัตลักษณ์ทางเพศที่เป็นชายหรือหญิง อาจมีความหลากหลายระหว่างสองเพศ หรืออยู่ตรงกลางระหว่างทั้งสองเพศ
- Intersex คือ ผู้ที่มีลักษณะทางกายภาพที่ไม่สามารถระบุเพศได้ชัดเจน
- Lesbian คือ ผู้หญิงที่มีความรักหรือดึงดูดผู้หญิงด้วยกัน
- Panromantic คือ ผู้ที่สามารถมีความรักกับบุคคลใดก็ได้ โดยไม่พิจารณาเพศ
- Non-binary คือ ผู้ที่ไม่รู้สึกตัวเองเป็นชายหรือหญิงตลอดเวลา
- Pansexual คือ ผู้ที่ดึงดูดคนทุกเพศ
- Transgender คือ ผู้ที่เปลี่ยนแปลงตัวตนจากเพศหนึ่งไปเป็นอีกเพศหนึ่ง
ความหมายและที่มาของธงสีรุ้ง สัญลักษณ์ของแอลจีบีที (LGBT)
ธงสีรุ้งที่มักจะถูกใช้โดยชาวแอลจีบีที (LGBT) ในการเดินขบวนในวัน Gay Freedom Day ที่จัดขึ้นในสหรัฐอเมริกา ถูกออกแบบโดย กิลเบิร์ต เบเกอร์ ซึ่งเป็นศิลปินที่ออกแบบธงนี้เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของกลุ่ม LGBTQ+ โดยแต่ละสีในธงมีความหมายที่เกี่ยวข้องกับความหลากหลายทางเพศ ดังนี้
สีแดงแทนความหมายถึงชีวิต
สีส้มสื่อถึงการบำบัดทางจิตใจ
สีเหลืองหมายถึงแสงของพระอาทิตย์
สีเขียวเป็นสัญลักษณ์ของธรรมชาติ
สีน้ำเงินแสดงถึงความสมดุลและความกลมกลืน
สีม่วงสะท้อนถึงจิตวิญญาณ
ความสำคัญของกลุ่มแอลจีบีที (LGBT) ในสังคมไทยและทั่วโลก

กลุ่มผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศมีบทบาทสำคัญในสังคมของทุกยุคสมัย ซึ่งมักมีการกล่าวถึงปัญหาการปิดกั้นทางเพศและสิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวข้อง ในประเทศที่ยอมรับความหลากหลายทางเพศตามกฎหมาย สิทธิพื้นฐานต่างๆ เช่น การแต่งงานระหว่างเพศเดียวกัน และการได้รับสวัสดิการที่ทำงานจะได้รับการเสริมสร้าง หากสังคมมีความเข้าใจในกลุ่มคนเหล่านี้ ก็จะสามารถเปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถแสดงออกได้อย่างเท่าเทียมกัน