
จากเหตุการณ์ "น้องซากิ" แมวสายพันธุ์บริติช ช็อตแฮร์ เพศเมีย อายุ 10 ปี เสียชีวิตหลังจากการอาบน้ำที่ร้านแห่งหนึ่ง โดยสาเหตุการตายถูกระบุว่าเกิดจาก ภาวะน้ำท่วมปอด ซึ่งทำให้หลายคนเกิดความสงสัยเกี่ยวกับภาวะน้ำท่วมปอดในแมว ว่าคืออะไร เกิดขึ้นได้อย่างไร และการรักษาคืออะไร
ภาวะน้ำท่วมปอดในแมวคืออะไร
ภาวะน้ำท่วมปอด คือ การสะสมของเหลวผิดปกติในเนื้อเยื่อของทางเดินหายใจหรือถุงลมในปอด ซึ่งอาจสัมพันธ์กับความผิดปกติในระบบไหลเวียนโลหิต เช่น ภาวะหัวใจล้มเหลว หรือเกิดจากปฏิกิริยาภูมิแพ้หรือโรคติดเชื้อบางชนิด รวมถึงอุบัติเหตุที่ทำให้เกิดการกระทบกระแทกที่ศีรษะซึ่งอาจส่งผลให้เกิดภาวะน้ำท่วมปอดในแมวได้
ภาวะน้ำท่วมปอดสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ โดยแบ่งออกเป็นสองกลุ่มหลัก คือ สาเหตุที่เกิดจากปัญหาหัวใจและสาเหตุที่ไม่เกี่ยวข้องกับหัวใจ สาเหตุที่เกิดจากหัวใจมักเกิดจากโรคหัวใจที่มีผลทำให้เกิดการสะสมของของเหลวในปอด โดยส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับความล้มเหลวของหัวใจด้านซ้าย ซึ่งทำให้เกิดการสะสมของของเหลวในปอดได้บ่อยครั้ง
- โรคลิ้นหัวใจเรื้อรัง (โดยเฉพาะลิ้นหัวใจไตรคัสปิดหรือลิ้นหัวใจด้านซ้าย): เป็นโรคที่ทำให้ลิ้นหัวใจทำงานผิดปกติ ส่งผลกระทบต่อการไหลเวียนของเลือดและอาจนำไปสู่ภาวะน้ำท่วมปอดได้
- กล้ามเนื้อหัวใจหนาตัวในแมว (Hypertrophic cardiomyopathy): เป็นโรคหัวใจที่พบได้บ่อยในแมว ทำให้กล้ามเนื้อหัวใจหนาขึ้นและสามารถกีดขวางการไหลเวียนของเลือดได้
- กล้ามเนื้อหัวใจขยายตัวในสุนัข (Dilated cardiomyopathy): เป็นโรคหัวใจที่พบได้บ่อยในสุนัข ส่งผลให้กล้ามเนื้อหัวใจบางลงและขยายตัว ทำให้การสูบฉีดเลือดไม่เต็มที่
สาเหตุที่ไม่เกี่ยวข้องกับหัวใจที่พบได้บ่อยอื่นๆ ได้แก่
- มะเร็งปอด: เนื้องอกในปอดอาจไปกดทับหลอดเลือดและทางเดินหายใจ ทำให้เกิดการสะสมของของเหลวในปอดได้
- ถูกไฟฟ้าช็อต: การถูกไฟฟ้าช็อตอาจทำให้เกิดความเสียหายต่อปอดและหลอดเลือด
- การกระทบกระแทกที่ศีรษะ: อาจส่งผลให้เกิดการบาดเจ็บที่สมองและกระทบต่อการทำงานของระบบหายใจ
- อาการชัก: อาการชักอาจทำให้ระดับออกซิเจนในเลือดลดลงและความดันโลหิตสูงขึ้น ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะน้ำท่วมปอดได้
- การบาดเจ็บที่ปอดเฉียบพลัน: เป็นภาวะที่ปอดอักเสบอย่างรุนแรงและเกิดขึ้นอย่างฉับพลัน
- ARDS (Acute Respiratory Distress Syndrome): เป็นภาวะที่ปอดอักเสบอย่างรุนแรงและเกิดขึ้นรวดเร็ว ทำให้ปอดไม่สามารถแลกเปลี่ยนก๊าซได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อาการของสัตว์เลี้ยงที่มีภาวะน้ำท่วมปอดคือ
- ไอ: เสียงไอเป็นอาการที่พบได้บ่อยในสัตว์เลี้ยงที่มีภาวะน้ำท่วมปอด
- หายใจลำบาก: การหายใจเร็ว หายใจลำบาก หรือหายใจแรงเป็นสัญญาณที่อาจบ่งชี้ภาวะน้ำท่วมปอด
- ลิ้นและเยื่อบุในช่องปากซีด: สีของลิ้นและเยื่อบุในช่องปากอาจเปลี่ยนเป็นสีฟ้าหรือซีด ซึ่งแสดงถึงการขาดออกซิเจนในเลือด
- อ่อนเพลีย: สัตว์เลี้ยงอาจมีอาการอ่อนเพลีย ไม่อยากเคลื่อนไหว และเหนื่อยง่าย
- หมดสติ: ในกรณีที่อาการรุนแรง สัตว์เลี้ยงอาจหมดสติได้
วิธีการรักษาภาวะน้ำท่วมปอดในแมว
การรักษาภาวะน้ำท่วมปอดในสัตว์เลี้ยงจะขึ้นอยู่กับสาเหตุหลักของอาการ การรักษาโรคต้นเหตุจึงเป็นแนวทางหลักที่ต้องพิจารณาก่อนเสมอ อย่างไรก็ตาม ยังมีแนวทางการรักษาที่ครอบคลุม ซึ่งประกอบไปด้วยสามขั้นตอนหลักที่สำคัญ:
- การรักษาเสถียรภาพของสัตว์เลี้ยง: สัตว์เลี้ยงที่มาหาแพทย์ส่วนใหญ่จะมีอาการหายใจลำบาก โดยทั่วไปจะได้รับการรักษาด้วยการให้ออกซิเจนและยาผ่อนคลาย เพื่อช่วยให้ร่างกายสามารถรับออกซิเจนได้เพียงพอ
- การลดภาวะน้ำท่วมปอด: การใช้ยาขับปัสสาวะและยาอื่นๆ จะช่วยลดของเหลวในปอดลง (อย่างน้อยในช่วงระยะเวลาหนึ่ง)
- การรักษาสาเหตุต้นเหตุ: การรักษาโรคต้นเหตุเป็นสิ่งสำคัญ หากขาดการรักษาสาเหตุนี้ อาจทำให้สัตว์เลี้ยงมีโอกาสรอดชีวิตต่ำ
ในกรณีที่ไม่สามารถหาสาเหตุของภาวะน้ำท่วมปอดได้ หรือหากไม่สามารถรักษาได้ ก็ยังมีวิธีการบางอย่างที่ได้รับการยอมรับในการควบคุมการสะสมของของเหลวในเนื้อเยื่อปอด ยาขับปัสสาวะเป็นยาหลักที่ใช้ในการรักษากรณีเหล่านี้ รวมทั้งยารักษาอื่นๆ ที่ช่วยจัดการกับปัญหาอื่นๆ ที่เกิดจากโรคต้นเหตุด้วย
ตัวอย่างเช่น โรคหัวใจที่พบในสัตว์เลี้ยงส่วนใหญ่ถือว่าไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่สามารถควบคุมอาการได้ โดยมักต้องใช้ยาขับปัสสาวะร่วมกับยารักษาโรคหัวใจอื่นๆ เพื่อรักษาโรคหัวใจในระยะยาว