Buzz
กะหล่ำปลีเป็นผักที่มีการใช้กันอย่างแพร่หลาย ไม่ว่าจะเป็นในเมนูอาหารต่างๆ หรือแม้กระทั่งการรับประทานทั้งสดหรือสุก ในตลาดเราจะพบทั้งกะหล่ำปลีเขียว หรือขาว และกะหล่ำปลีม่วง หรือแดง หลายคนอาจสงสัยว่าทั้งสองชนิดนี้เหมือนหรือแตกต่างกัน และอะไรให้ประโยชน์มากกว่ากัน
กะหล่ำปลีม่วงกับกะหล่ำปลีขาวมีความแตกต่างกันอย่างไร?
หลายคนอาจสงสัยว่าแต่ละชนิดของกะหล่ำปลีมีความแตกต่างกันมากแค่ไหน และชนิดไหนให้คุณค่าทางโภชนาการดีกว่า จริงๆ แล้ว ไม่ว่าจะเลือกทานกะหล่ำปลีชนิดไหน ก็มีประโยชน์ต่อสุขภาพทั้งคู่ เพราะทั้งกะหล่ำปลีม่วงและเขียวล้วนมีแคลอรี่ต่ำและไฟเบอร์สูงเหมือนกัน
วิตามินเอ
ผักและผลไม้ที่มีสีสันสดใสมักจะอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระมากกว่าผักผลไม้ที่มีสีอ่อน ดังนั้นควรเลือกวิธีการปรุงอาหารที่เหมาะสม เช่น การปรุงอาหารอย่างรวดเร็วหรือการใช้ความร้อนต่ำ เพื่อรักษาคุณค่าของสารต้านอนุมูลอิสระให้ได้ประโยชน์สูงสุด
กะหล่ำปลีม่วงหรือแดงมีวิตามินเอสูงกว่ากะหล่ำปลีเขียวหรือขาวถึง 10 เท่า โดยกะหล่ำปลีม่วงหรือแดง 1 ถ้วยมีวิตามินเอมากถึง 33% ของความต้องการวิตามินเอต่อวัน ในขณะที่กะหล่ำปลีเขียวหรือขาว 1 ถ้วยมีวิตามินเอเพียง 3% เท่านั้น วิตามินเอมีความสำคัญในการดูแลสายตา ผิวหนัง และเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง
วิตามินเค
วิตามินเคมีความสำคัญต่อสุขภาพกระดูก ช่วยบำรุงกระดูกและป้องกันโรคกระดูกพรุน นอกจากนี้ยังมีบทบาทสำคัญในกระบวนการแข็งตัวของเลือด กะหล่ำปลีเขียวหรือขาวซึ่งเป็นผักใบเขียว มีวิตามินเคมากกว่ากะหล่ำปลีม่วงหรือแดง โดยกะหล่ำปลีขาวหรือเขียว 1 ถ้วยมีวิตามินเคถึง 57% ของความต้องการวิตามินเคต่อวัน ส่วนกะหล่ำปลีม่วงหรือแดง 1 ถ้วยมีวิตามินเคเพียง 28% เท่านั้น
วิตามินซี
ทั้งกะหล่ำปลีม่วงหรือแดง และกะหล่ำปลีเขียวหรือขาวล้วนเป็นแหล่งวิตามินซีที่ยอดเยี่ยม แต่ กะหล่ำปลีม่วงจะมีวิตามินซีสูงกว่าประมาณ 37% วิตามินซีมีประโยชน์ในการต้านอนุมูลอิสระ ช่วยสร้างคอลลาเจนเพื่อให้แผลหายเร็ว และยังช่วยเสริมความแข็งแรงให้กระดูกและฟัน
สารแอนโธไซยานิน
สารแอนโธไซยานินที่ทำให้กะหล่ำปลีมีสีม่วงหรือแดงนี้มีคุณสมบัติในการป้องกันโรคมะเร็ง ช่วยเสริมความจำ กระตุ้นการปล่อยฮอร์โมนที่ช่วยเผาผลาญไขมัน และควบคุมความอยากอาหาร ทำให้สามารถช่วยในการลดน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สรุปคือ : กะหล่ำปลีม่วงหรือแดงมีวิตามินเอมากกว่ากะหล่ำปลีเขียวหรือขาวถึง 10 เท่า นอกจากนี้ยังมีวิตามินซีมากกว่ากะหล่ำปลีขาวหรือเขียว 37% อีกทั้งกะหล่ำปลีม่วงยังช่วยต้านโรคมะเร็ง ช่วยในเรื่องความจำ และกระตุ้นฮอร์โมนที่ช่วยในการเผาผลาญไขมัน ขณะที่กะหล่ำปลีขาวหรือเขียวก็มีวิตามินเคมากกว่ากะหล่ำปลีม่วง 57%
