
การที่มุมปากตกทำให้ใบหน้าดูเคร่งเครียดตลอดเวลา โดยที่คุณอาจคิดว่าร่องแก้มเป็นริ้วรอยที่ควรให้ความสำคัญ แต่รอยย่นที่มุมปากก็ทำให้คุณกังวลไม่น้อย รอยย่นเหล่านี้มักเป็นจุดเริ่มต้นของร่องมาริโอเน็ตต์ แต่ไม่ยาวลงไปถึงคาง เกิดจากการหย่อนคล้อยของผิวหนังตามวัย การสูญเสียคอลลาเจน และกล้ามเนื้อรอบปากที่อ่อนแอลง
วิธีแรกในการแก้ปัญหามุมปากตกคือการสังเกตตัวเองในกระจก มีทั้งวิธีธรรมชาติและวิธีทางการแพทย์ที่ช่วยได้! อีกทางเลือกคือการฝึกบริหารริมฝีปากด้วย 5 ท่าเฉพาะทาง หากคุณกำลังเผชิญกับรอยย่นที่มุมปาก ลองทำแบบทดสอบด้านล่างเพื่อรับแผนการออกกำลังกายใบหน้าที่เหมาะกับคุณ
สาเหตุของมุมปากตกมีหลายประการ ดังนี้
1. กล้ามเนื้อใบหน้าอ่อนแอ
สาเหตุหลักที่พบได้บ่อยคือการที่กล้ามเนื้อใบหน้าค่อยๆ อ่อนแรงลงตามอายุขัย โดยเฉพาะกล้ามเนื้อ Orbicularis oris ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมการเคลื่อนไหวของริมฝีปาก เมื่อกล้ามเนื้อส่วนนี้เสื่อมสภาพ มุมปากก็จะตกลง ส่งผลให้ใบหน้าดูเคร่งเครียดและขาดความมีชีวิตชีวา
2. ความเสียหายของเส้นประสาท
การที่เส้นประสาทที่ควบคุมกล้ามเนื้อใบหน้า เช่น เส้นประสาทใบหน้า (Facial nerve) เสียหาย อาจทำให้มุมปากตกได้เช่นกัน สาเหตุมักมาจากภาวะอัมพาตใบหน้า (Bell's palsy) โรคหลอดเลือดสมอง หรือโรคทางระบบประสาทอื่นๆ
3. โครงสร้างใบหน้า
บางคนอาจมีโครงสร้างใบหน้าที่ทำให้มุมปากตกตั้งแต่เกิด ซึ่งมักเกิดจากกระดูกโหนกแก้มหรือขากรรไกรที่ยื่นออกมา หรือไขมันบริเวณแก้มที่หย่อนยาน
4. การแสดงออกทางสีหน้า
การแสดงสีหน้าที่ไม่ค่อยยิ้มหรือทำปากจู๋เป็นประจำเป็นเวลานาน อาจส่งผลให้มุมปากตกได้
5. ภาวะทางการแพทย์อื่นๆ
ในบางกรณี มุมปากตกอาจเป็นอาการที่บ่งบอกถึงภาวะสุขภาพอื่นๆ เช่น โรคพาร์กินสัน โรคหลอดเลือดสมอง หรือโรคมัลติเปิล สเคลโรซิส
5 ท่าบริหารช่วยแก้ปัญหามุมปากตก
ท่าออกกำลังกายที่ 1: ยิ้มและจู๋ปาก
การฝึกท่า "ยิ้มและจู๋ปาก" ซ้ำๆ วันละอย่างน้อย 5 ครั้ง จะช่วยปรับสมดุลและเพิ่มความสมมาตรให้กับใบหน้า การดูดแก้มและจู๋ปากจะช่วยเสริมความกระชับให้กับบริเวณโหนกแก้มและริมฝีปาก
วิธีทำ:
- ทำปากจู๋เหมือนกำลังจะจูบ
- ค้างท่านี้ไว้ 2-3 วินาที
- ยิ้มกว้างให้เต็มที่
- ทำซ้ำ 3-6 ครั้งต่อวัน
- ผลลัพธ์ที่ได้คือใบหน้าที่ดูเรียวและเนียนขึ้น
เคล็ดลับ:
- ยิ้มให้กว้างที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
- ทำปากจู๋ให้แน่นที่สุด
- ค้างท่านี้ไว้ให้นานที่สุดเท่าที่ทำได้
- หายใจเข้าลึกๆ ขณะทำท่า
- ดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อให้ผิวชุ่มชื้น
ประโยชน์:
- ช่วยปรับสมดุลและเพิ่มความสมมาตรให้ใบหน้า
- ช่วยลดริ้วรอยรอบปาก
- ทำให้ริมฝีปากดูอวบอิ่มขึ้น
- ช่วยให้โหนกแก้มเด่นชัด
- ช่วยกระชับกล้ามเนื้อใบหน้า
2.ท่าออกกำลังกายที่ 2: ยกแก้มต้านแรง
ท่า "ยกแก้มต้านแรง" เป็นเหมือนการยกกระชับใบหน้าแบบง่ายๆ โดยใช้เพียงนิ้วมือ ท่านี้ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือดบนใบหน้า เสริมความกระชับและเพิ่มปริมาณให้กล้ามเนื้อ
วิธีทำ:
- วางนิ้วมือทั้งสองข้างบนโหนกแก้ม
- ดึงผิวหนังขึ้นเบาๆ
- อ้าปากเหมือนกำลังออกเสียง "โอ"
- หากทำถูกต้อง จะรู้สึกถึงแรงต้านที่กล้ามเนื้อแก้ม
- ค้างท่านี้ไว้อย่างน้อย 5 วินาที
- ทำซ้ำ 10-15 เซ็ต
เคล็ดลับ:
- วางนิ้วไว้ใต้โหนกแก้มเล็กน้อย
- ดึงผิวหนังขึ้นจนรู้สึกตึง
- หายใจเข้าลึกๆ ขณะทำท่า
- ดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อให้ผิวชุ่มชื้น
ประโยชน์:
- ช่วยปรับสมดุลและเพิ่มความสมมาตรให้ใบหน้า
- ช่วยลดริ้วรอยรอบปาก
- ทำให้โหนกแก้มดูเด่นชัดขึ้น
- ช่วยกระชับกล้ามเนื้อใบหน้า
- ทำให้ใบหน้าดูเรียวกระชับ
3.ท่าออกกำลังกายที่ 3: หน้าปลา
ท่า "หน้าปลา" ทำโดยการปิดปากและดูดแก้มเข้าด้านใน จากนั้นพยายามยิ้มค้างไว้ หากทำได้นาน 20 วินาที จะรู้สึกถึงความร้อนบริเวณแก้ม
วิธีทำ:
- ปิดปากให้สนิท
- ดูดแก้มเข้าด้านใน
- พยายามยิ้มค้างไว้
- ค้างท่านี้ไว้ 20 วินาที
- ผ่อนคลาย
- ทำซ้ำ 5 ครั้ง
เคล็ดลับ:
- ดูดแก้มเข้าให้แน่นที่สุด
- ยิ้มให้กว้างเท่าที่ทำได้
- หายใจเข้าลึกๆ ขณะทำท่า
- ดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อให้ผิวชุ่มชื้น
ประโยชน์:
- ช่วยลดริ้วรอยรอบปาก
- ทำให้โหนกแก้มดูเด่นชัด
- ช่วยกระชับกล้ามเนื้อใบหน้า
- ทำให้ใบหน้าดูเรียวขึ้น
ท่าออกกำลังกายที่ 4: กดลิ้น
ท่า "กดลิ้น" เป็นหนึ่งในท่าบริหารที่ดีที่สุดสำหรับการลดรอยย่นที่มุมปาก โดยการยื่นลิ้นออกมาแตะมุมปากให้ไกลที่สุด จากนั้นกดลิ้นกับด้านหลังของช้อนและค้างไว้ 5-10 วินาที ทำซ้ำข้างละ 5 ครั้ง วันละ 5 รอบ
วิธีทำ:
- ยื่นลิ้นออกมาแตะมุมปากด้านซ้ายให้ไกลที่สุด
- กดลิ้นกับด้านหลังของช้อน
- ค้างท่านี้ไว้ 5-10 วินาที
- ผ่อนคลาย
- ทำซ้ำ 5 ครั้ง
- ทำขั้นตอนเดียวกันกับมุมปากด้านขวา
เคล็ดลับ:
- ยื่นลิ้นออกมาให้สุดแรง
- กดลิ้นกับช้อนให้แน่น
- หายใจเข้าลึกๆ ขณะทำท่า
- ดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อให้ผิวชุ่มชื้น
ประโยชน์:
- ช่วยลดรอยย่นที่มุมปาก
- ช่วยยกมุมปากให้สูงขึ้น
- ช่วยกระชับกล้ามเนื้อใบหน้า
- ทำให้ใบหน้าดูเรียวกระชับ
ท่าออกกำลังกายที่ 5: เกร็งขากรรไกร
ท่า "เกร็งขากรรไกร" ไม่เพียงช่วยเสริมความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อขากรรไกร แต่ยังช่วยให้ผิวหน้าดูเรียบเนียนขึ้นอีกด้วย
วิธีทำ:
- อ้าปากให้กว้างที่สุด
- ใช้มือข้างหนึ่งดึงคางลงมา
- เพิ่มแรงตึงด้วยมืออีกข้างดึงคางลงมาเพิ่ม
- เกร็งขากรรไกรต้านแรงดึงและค้างไว้ 5 วินาที
- ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ
- ทำซ้ำขั้นตอนเดิม
เคล็ดลับ:
- อ้าปากให้กว้างเท่าที่ทำได้
- ดึงคางลงมาจนรู้สึกตึง
- เกร็งขากรรไกรให้แน่นที่สุด
- หายใจเข้าลึกๆ ขณะทำท่า
- ดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อให้ผิวชุ่มชื้น
ประโยชน์:
- ช่วยเสริมความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อขากรรไกร
- ช่วยลดริ้วรอยใต้คาง
- ทำให้ใบหน้าดูเรียวขึ้น
- ช่วยให้ผิวหน้าดูเรียบเนียน