
ต้นแก้วเป็นพืชประเภทไม้พุ่มกึ่งไม้ต้นที่คนส่วนใหญ่คุ้นเคยกันดี แต่สำหรับคนรุ่นใหม่อาจยังไม่ค่อยรู้จักมากนัก ต้นแก้วยังจัดเป็นพืชสมุนไพรที่มีสรรพคุณทางยาหลากหลาย และหากใครที่เคยดูละคร โดยเฉพาะละครแนวพีเรียตหรือย้อนยุค บางครั้งจะมีฉากที่ใช้ใบแก้วเคี้ยวเพื่อเพิ่มอุณหภูมิร่างกาย ทำให้ดูเหมือนเป็นไข้
ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการเคี้ยวใบแก้วแล้วตัวร้อนเหมือนเป็นไข้นั้นเป็นเรื่องจริงหรือไม่ เรามีคำตอบมาให้แล้ว
จากข้อมูลของคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ได้ระบุถึงสรรพคุณทางยาของแก้วหรือต้นแก้วไว้ว่า
"ใบ มีรสร้อนเผ็ดขม ช่วยขับโลหิตระดูสตรี บำรุงธาตุ แก้อาการจุกเสียดแน่นท้อง ขับลม ใบสดเมื่อโขลกและปั้นใส่ทวารหนักประมาณ 5 นาที จะทำให้ตัวร้อนเหมือนเป็นไข้ ช่วยขับพยาธิตัวตืด และแก้ท้องเสีย"
นอกจากนี้ยังมีการอธิบายลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของแก้วเพิ่มเติมว่า
แก้ว
ชื่อวิทยาศาสตร์ Murraya paniculata (L.) Jack
ชื่อพ้อง Chaleas paniculata L.
ชื่อวงศ์ RUTACEAE
ชื่อสามัญ
ชื่ออื่นๆ
ในภาคเหนือเรียก แก้วพริก, ตะไหลแก้ว
ที่ลำปางเรียก จ๊าพริก
ในภาคกลางเรียก แก้ว, แก้วขาว
ที่สระบุรีเรียก แก้วลาย
ในภาษามลายู-ปัตตานีเรียก กะมูนิง
ที่ยะลาเรียก แก้วขี้ไก่
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ เป็นพืชประเภทไม้พุ่มกึ่งไม้ต้น ขนาดเล็ก สูงประมาณ 5 - 8 เมตร เปลือกต้นมีสีขาวปนเทาและแตกเป็นร่องตามยาว กิ่งก้านแตกแขนงเป็นพุ่มหนาแน่น
ใบ เป็นใบประกอบแบบขนนกปลายคี่ เรียงสลับกันเป็นวงกลม ช่อหนึ่งมีใบย่อย 3 - 7 ใบ ใบคู่ล่างมักมีขนาดเล็กกว่า ลักษณะใบมีหลายรูปแบบ เช่น รูปไข่ รูปรี หรือรูปข้าวหลามตัดเบี้ยว โคนใบเรียว ขอบใบเรียบหรือเป็นคลื่นเล็กน้อย ปลายใบมีรอยหยักตื้น เนื้อใบมีต่อมน้ำมัน เมื่อส่องแสงจะเห็นเป็นจุดใสๆ ใบมีสีเขียวเข้มเป็นมันและหนาแน่น เมื่อขยี้จะมีกลิ่นฉุนและเผ็ดร้อน
ดอก มีสีขาวบริสุทธิ์ ออกดอกเดี่ยวหรือเป็นช่อสั้นๆ ช่อละ 2 - 3 ดอก กลีบเลี้ยงมี 5 กลีบ กลีบดอกมี 5 กลีบและร่วงง่าย ดอกบานในเวลากลางคืนและมีกลิ่นหอม
ผล เป็นผลแบบมีเนื้อหลายเมล็ด รูปไข่หรือรูปรี ปลายผลทู่กว้าง ผลอ่อนสีเขียว เมื่อสุกจะเปลี่ยนเป็นสีส้มอมแดง ผิวผลมีต่อมน้ำมัน
เมล็ด มีลักษณะรูปไข่ หุ้มด้วยขนหนาและเหนียว
ประโยชน์ทางยา
ใบ มีรสร้อนเผ็ดขม ช่วยขับโลหิตระดูสตรี บำรุงธาตุ แก้อาการจุกเสียดแน่นท้อง ขับลม ใบสดเมื่อโขลกและปั้นใส่ทวารหนักประมาณ 5 นาที จะทำให้ตัวร้อนเหมือนเป็นไข้ ช่วยขับพยาธิตัวตืด และแก้ท้องเสีย
กิ่ง และใบ สามารถนำมาใช้รักษาโรคเอดส์ได้
ก้าน และใบสด มีรสเผ็ดร้อนขม นำมาบดและแช่ในแอลกอฮอล์เป็นเวลา 1 วัน ใช้ทาหรือฉีดเพื่อระงับอาการปวด ต้มน้ำอมบ้วนปากช่วยแก้ปวดฟัน และใช้ก้านทำความสะอาดฟัน
ดอก และใบ ช่วยในการย่อยอาหาร บรรเทาอาการไขข้ออักเสบ แก้ไอ และลดอาการเวียนศีรษะ
ราก และต้นแห้ง นำมาต้มเคี่ยว กรองน้ำใช้ทาปากมดลูกเพื่อช่วยเร่งการคลอดบุตรและขับประจำเดือน
ราก มีรสเผ็ดขมสุขุม ช่วยแก้ปวดสะเอว บรรเทาอาการผื่นคันจากความชื้น รักษาฝีฝักบัวที่เต้านม ฝีมดลูก แผลคัน และพิษจากแมลงสัตว์กัดต่อย
เอกสารอ้างอิง
อ.โชติอนันต์ และคณะ. (2551). สมุนไพรไทย สำหรับงานสาธารณสุขมูลฐาน. หน้า 176
อย่างไรก็ตาม มีข้อมูลบางส่วนระบุว่าการเคี้ยวใบแก้วจะทำให้เกิดความร้อนภายในช่องปากเท่านั้น ทำให้เมื่อวัดอุณหภูมิทางปากด้วยปรอทจะดูเหมือนมีไข้