
คำว่า "รักตัวเอง" กับ "เห็นแก่ตัว" แตกต่างกันจริงหรือไม่? การรักตัวเองคือการยอมรับในสิ่งที่คุณเป็นทั้งดีและไม่ดี แล้วเลือกที่จะดำเนินชีวิตตามความเชื่อและค่านิยมของตัวเอง ขณะที่การเห็นแก่ตัวคือการเลือกทำสิ่งที่ไม่สนใจผลกระทบต่อผู้อื่น เรามาทำความเข้าใจความหมายและความแตกต่างระหว่างคำสองนี้กันดีกว่า
"รักตัวเอง" กับ "เห็นแก่ตัว" แตกต่างกันอย่างไร ?
การรักตัวเองหมายถึงอะไร
การรักตัวเอง (Self-Love) คือการยอมรับตัวตนในทุกๆ แง่มุมและการตัดสินใจที่สะท้อนถึงตัวตนของคุณ หากคุณเคยอ่านบทความในเว็บไซต์นี้ คุณอาจจะคุ้นเคยกับคำว่า "การรักตัวเอง" อยู่แล้ว แต่เพื่อความเข้าใจที่ชัดเจนยิ่งขึ้น การรักตัวเองคือการมองตัวเองอย่างเป็นกลางและเคารพในสิ่งที่คุณเป็น ไม่ว่าคุณจะเจออะไรในชีวิต คุณยังคงรักและยอมรับตัวเองโดยไม่หวั่นไหวต่อสิ่งที่คนอื่นคาดหวังจากคุณ การรักตัวเองเป็นการสำรวจตัวเองอย่างลึกซึ้งและยอมรับทุกๆ ส่วนของคุณเพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจอย่างมีสติและมั่นใจในการแสดงออกถึงตัวตนที่แท้จริงของคุณ
การเห็นแก่ตัวคืออะไร
การเห็นแก่ตัวหมายถึงการกระทำที่ไม่คำนึงถึงความรู้สึกหรือผลกระทบต่อผู้อื่น แท้จริงแล้ว การเห็นแก่ตัวคือการทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการโดยไม่สนใจคนรอบข้าง บางครั้งคนอาจจะรู้สึกว่าเส้นแบ่งระหว่างการรักตัวเองและการเห็นแก่ตัวนั้นบางมาก เพราะในบางครั้ง การรักตัวเองอาจทำให้คนอื่นมองว่าคุณกำลังเห็นแก่ตัวอยู่
การรักตัวเองไม่จำเป็นต้องละเลยความรู้สึกของคนอื่น ความรักตัวเองที่แท้จริงหมายถึงการเข้าใจและดูแลตัวเองไปพร้อมกับการเคารพและเห็นอกเห็นใจผู้อื่น การกระทำที่เห็นแก่ตัวอาจทำลายความสัมพันธ์และนำมาซึ่งความทุกข์
ในทางกลับกัน การรักตัวเองจะช่วยให้คุณมีความสุขและรักษาความสัมพันธ์ที่ดีต่อคนอื่น สิ่งสำคัญคือการเรียนรู้ที่จะรักตัวเองโดยไม่ต้องเห็นแก่ตัว
เปรียบเทียบการรักตัวเองกับการเห็นแก่ตัว
บางครั้งการอยู่ใกล้คนบางคนอาจส่งผลลบต่อสภาพจิตใจและอารมณ์ของคุณ จึงอาจต้องเลือกที่จะห่างเหินจากพวกเขา แม้ว่าคนเหล่านั้นอาจมองว่าคุณเห็นแก่ตัว แต่ความจริงคุณไม่ได้ตั้งใจทำร้ายหรือทอดทิ้งความสัมพันธ์ เพียงแค่คุณได้คิดทบทวนแล้วว่า การอยู่ใกล้ชิดกับพวกเขามีผลกระทบต่อคุณในทางที่ไม่ดี
คุณยังคงคิดถึงพวกเขาและพิจารณาทุกแง่มุมของสถานการณ์ ไม่ใช่การตัดสินใจที่ขาดการคำนึงถึงผู้อื่น แม้ว่าจะคิดถึงพวกเขาอย่างมากในช่วงเวลาที่ต้องตัดสินใจ