Muscat (มัสแคท) หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ องุ่นไชน์มัสแคท เป็นพันธุ์องุ่นที่มีหลายชนิด โดยเฉพาะพันธุ์ Shine Muscat ที่สามารถทานสดได้อย่างอร่อย องุ่น Shine Muscat ถูกพัฒนาขึ้นโดยสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์การเกษตรแห่งชาติของญี่ปุ่น โดยมีจุดกำเนิดในเมืองอากิซึ จังหวัดฮิโรชิม่า มันเป็นพันธุ์ที่สุกเร็วในช่วงกลางเดือนสิงหาคม องุ่นนี้เกิดจากการผสมพันธุ์ระหว่างองุ่นมัสแคทอเล็กซานเดรีย (Muscat of Alexandria) ซึ่งมีรสชาติและเนื้อสัมผัสดี แต่ไม่เหมาะกับสภาพอากาศของญี่ปุ่น เพราะทนต่อโรคและแมลงไม่ดี กับพันธุ์สเตอเบน (Steuben) ซึ่งมีปริมาณน้ำตาลสูงแต่เนื้อเหนียวและมีกลิ่นไม่พึงประสงค์
ผลของ องุ่นไชน์มัสแคท หรือบางคนอาจเรียก "องุ่นไซมัสแคท" มีขนาดใหญ่กว่าปกติ ช่อผลแน่น ผิวเรียบเนียนสีเขียวสดใส แทบจะไม่มีเมล็ด เนื้อแน่นมีลักษณะโปร่งแสงคล้ายเจลลี่ นุ่ม กรอบ และมีน้ำมาก รสชาติหวานหอมและละมุนไม่เปรี้ยว ผิวบางแต่ไม่แตกง่าย สามารถทานได้ทั้งเปลือกและเก็บรักษาได้นาน
คุณค่าทางโภชนาการ: พลังงาน 69 กิโลแคลอรี่, คาร์โบไฮเดรต 18.1 กรัม, น้ำตาล 15.48 กรัม, ใยอาหาร 0.9 กรัม, ไขมัน 0.16 กรัม
ประโยชน์ ขององุ่นไชน์มัสแคท
- สารแอนโทไซยานินที่มีอยู่มากในองุ่นมีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระ ช่วยฟื้นฟูการมองเห็น และป้องกันการเกิดมะเร็งในร่างกายได้เป็นอย่างดี
- สารเทอร์ซอทิลบีนที่ช่วยในการป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจและโรคอัลไซเมอร์
- สารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด เช่น สารคาเตชินที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย

องุ่นไชน์มัสแคทได้รับการพัฒนาเพื่อแก้ไขข้อบกพร่องขององุ่นทั้งสองพันธุ์ โดยผสมผสานข้อดีจากองุ่นมัสแคทอเล็กซานเดรียในด้านรสชาติและเนื้อสัมผัส กับข้อดีจากองุ่นพันธุ์สเตอเบนในเรื่องของความทนทานต่อโรคและแมลง รวมถึงความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับสภาพอากาศของญี่ปุ่น
องุ่นไชน์มัสแคทได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นพันธุ์ใหม่ในปี 2003 และกลายเป็นพันธุ์ยอดนิยมทั้งในญี่ปุ่นและทั่วโลกในเวลาไม่นาน เนื่องจากรสชาติหวานอร่อย เนื้อกรอบ และกลิ่นหอมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

องุ่นพันธุ์นี้มีลักษณะเป็นทรงกระบอก น้ำหนักประมาณ 400-500 กรัม เมื่อสุกเต็มที่จะมีสีเหลืองอมเขียว ผลมีขนาดเล็กและยาวคล้ายกับองุ่นพันธุ์เคียวโฮ ใบองุ่นมีสีเขียวและคลื่นเมื่อสุก ด้านล่างของใบมีขนนุ่มๆ ปกคลุมอย่างหนาแน่น องุ่นพันธุ์นี้ทนทานต่อสภาพอากาศหนาวเย็นได้ดี และสีไม่ซีดจางแม้ในช่วงฤดูร้อนที่มีอากาศร้อนจัด รสชาติและเนื้อสัมผัสของมันเทียบเคียงกับองุ่นยุโรป และยังสามารถเก็บรักษาได้ดีเยี่ยม องุ่นพันธุ์นี้ยังเป็นไม้ผลที่แข็งแรงและสามารถให้ผลผลิตได้ภายใน 3 ปีหลังปลูก