
หลายครั้งที่เราบอกว่าอดีตนั้นผ่านไปแล้ว การคิดถึงมันคงไม่มีประโยชน์ เพราะเราก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เกิดขึ้นได้ จึงควรอยู่กับปัจจุบันให้ดีที่สุด แต่ถึงจะรู้เช่นนั้น บางคนก็ยังไม่สามารถก้าวผ่านอดีตได้อย่างสมบูรณ์ เพราะแผลในอดีตบางอย่างยังคงตามหลอกหลอนและกลายเป็นปมที่ฝังลึกในใจ
บาดแผลทางอารมณ์ที่เก็บไว้ในจิตใต้สำนึก บางครั้งเราคิดว่าได้ผ่านมันไปแล้ว แต่เมื่อเจอสิ่งกระตุ้นมันก็จะกลับมาในความทรงจำอย่างชัดเจน และวันนี้เราจะมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับบาดแผลทางอารมณ์ในวัยเด็กที่มีผลกระทบต่อชีวิตในวัยผู้ใหญ่กัน
1. บาดแผลทางอารมณ์ที่เกี่ยวข้องกับความรู้สึกอิสรภาพของตัวเอง
แผลทางอารมณ์ที่เชื่อมโยงกับการรู้สึกมีอิสรภาพอาจเกิดขึ้นจากการที่มีใครบางคนในชีวิตพยายามควบคุมคุณและจำกัดเสรีภาพ คุณอาจเติบโตมาพร้อมกับความรู้สึกว่า หากต้องการความไว้ใจจากผู้อื่นก็อาจต้องแลกด้วยการสูญเสียอิสรภาพ เหมือนกับในวัยเด็กที่ต้องถูกควบคุมโดยพ่อแม่หรือผู้ปกครอง คุณจะรู้สึกไม่มั่นใจในตัวเองเพราะการตัดสินใจต่างๆ มักจะถูกตั้งคำถามและทำให้รู้สึกว่าการตัดสินใจของตนเองนั้นผิดเสมอ
การถูกควบคุมในลักษณะนี้เกิดขึ้นซ้ำๆ ในวัยเด็กและส่งผลต่อชีวิตในวัยผู้ใหญ่ เมื่อคุณต้องเผชิญกับการตัดสินใจในสถานการณ์ต่างๆ บาดแผลที่ฝังอยู่ในจิตใต้สำนึกจะทำให้คุณรู้สึกลังเลในความสามารถของตนเอง
การเยียวยาบาดแผลในลักษณะนี้คือการหันกลับไปเผชิญหน้ากับปมปัญหาจากอดีต ทำความเข้าใจกับอิสรภาพที่เคยถูกจำกัดและการตัดสินใจที่ไม่เคยได้รับการยอมรับ จากนั้นค่อยๆ บอกตัวเองว่า ชีวิตต้องเดินไปข้างหน้า และคุณเองก็มีความกล้าที่จะรับผิดชอบในทุกการตัดสินใจของตนเอง
2. บาดแผลทางอารมณ์ในวัยเด็กที่กระทบความรู้สึกภาคภูมิใจในตัวเอง
หากคุณเคยประสบกับเหตุการณ์ที่ทำให้รู้สึกว่าตัวเองไม่สำคัญในวัยเด็ก ไม่ว่าจะเป็นเทศกาลหรือความสนใจจากครอบครัว ความรู้สึกผิดหวังในวัยเด็กนั้นจะส่งผลต่อความมั่นใจและความรักในตัวเองเมื่อคุณเติบโตเป็นผู้ใหญ่ การถูกปฏิเสธในช่วงเวลาที่สำคัญนั้นยากจะลืมเลือน และมันจะส่งผลต่อสภาพอารมณ์ของคนที่ถูกปฏิเสธอย่างต่อเนื่อง
ลักษณะของผู้ใหญ่ที่ขาดความมั่นใจเพราะบาดแผลจากวัยเด็กที่ทำให้รู้สึกเป็นคนไร้ค่า จะทำให้เขาเติบโตมาโดยมีความรู้สึกผิดและไม่มั่นใจในตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดก็ตาม และมักจะลังเลในการตัดสินใจด้วยความรู้สึกว่าไม่ดีพอ ด้วยความรู้สึกเหล่านี้ พวกเขามักจะยอมแพ้ก่อนที่จะเริ่มต้น เพราะไม่อยากให้แผลในใจจากอดีตถูกกระตุ้นขึ้นมา
การเยียวยาบาดแผลทางอารมณ์นี้คือการลงมือทำสิ่งที่คุณอยากทำให้สำเร็จ (ไม่ว่าจะเป็นการเรียนหรือการทำงาน) อย่างทุ่มเทเต็มที่ เพื่อเอาชนะความคิดที่บอกว่า “คุณไม่ดีพอ” เมื่อคุณลงมือทำด้วยความมุ่งมั่นและทำให้จบ แม้ผลจะไม่มากนัก แต่เสียงที่เคยกระซิบบอกคุณจะเบาลง เพราะคุณได้พิสูจน์แล้วว่าคุณไม่ยอมแพ้ง่ายๆ เหมือนเมื่อก่อน
3. บาดแผลทางอารมณ์ในวัยเด็กที่เกี่ยวข้องกับความรู้สึกขาดความรัก
สิ่งที่สำคัญในวัยเด็กคือการได้รับความรักจากพ่อแม่ เพราะความรักจากพ่อแม่และครอบครัวเป็นความรักที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเด็ก หากเด็กโตมาโดยไม่ได้รับความรักจากครอบครัวเพียงพอ หรือได้รับการดูแลที่ไม่เหมาะสมจากการที่พ่อแม่มัวแต่สนใจงานหรือสถานะทางสังคม และเลี้ยงลูกด้วยสิ่งของมากกว่าความรัก มันจะส่งผลต่อการเติบโตและความสามารถในการแสดงออกความรักให้กับผู้อื่นในอนาคต
หากเด็กคนหนึ่งเติบโตในครอบครัวที่ขาดความรัก เขาจะกลายเป็นผู้ใหญ่ที่แสวงหาความรักหรือกลัวที่จะรักใคร ความรู้สึกนี้จะถูกฝังลึกในจิตใต้สำนึกจนถึงวัยที่ควรจะมีความรัก บาดแผลจากอดีตจะปรากฏชัดเจน การแสดงออกจะเป็นสองแบบ คือ ไม่กล้ารักใครและต้องการความรักที่ไม่มีวันจบสิ้น
การแก้ไข บาดแผลในลักษณะนี้คือการพบคนที่พร้อมจะรักและทำให้คุณรู้สึกสำคัญ แต่ที่สำคัญคือคุณต้องรักตัวเองก่อน ทำความเข้าใจกับอดีตที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ว่ามันเป็นเหตุผลที่ทำให้คุณเป็นแบบนี้ จากนั้นจึงปรับตัวและแก้ไขความรู้สึกในปัจจุบันเพื่อสร้างตัวตนที่ดีขึ้นในอนาคต เพราะเข้าใจอดีตจึงทำให้เกิดตัวฉันที่ดีขึ้นในอนาคต
บาดแผลทางอารมณ์เหล่านี้สามารถเกิดขึ้นได้ในทุกครอบครัว ขึ้นอยู่กับความสามารถของพ่อแม่หรือผู้ปกครองในการดูแลและรักษาความรู้สึกของเด็กไม่ให้เกิดบาดแผลในใจ หากเด็กเติบโตในสภาพแวดล้อมที่มีความแหว่งวิ่นทางอารมณ์ พวกเขาจะกลายเป็นปัญหาของสังคมเมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่