
เคยรู้สึกไหมว่าแม้จะอยู่ในเมืองที่คึกคัก ผู้คนเต็มไปหมด แต่กลับรู้สึกเหงา และบางครั้งรู้สึกโดดเดี่ยวท่ามกลางผู้คนรอบตัวหลายร้อยคน ทำไมเราถึงรู้สึกแบบนั้นได้ในขณะที่ไม่ได้อยู่คนเดียว?
ความเหงากับความโดดเดี่ยว
ก่อนที่จะพูดถึงความรู้สึกโดดเดี่ยว หลายคนคงเคยสัมผัสกับความเหงามาก่อน โดยนักสังคมวิทยา Robert S. Weiss กล่าวว่า ความเหงาสามารถแบ่งออกได้เป็นสองประเภท ประเภทแรกคือความเหงาทางสังคม เกิดจากการขาดความสัมพันธ์กับผู้อื่น หรือการขาดการติดต่อกับเพื่อนหรือเครือข่ายสังคม และประเภทที่สองคือความเหงาทางอารมณ์ เกิดจากการขาดความผูกพันทางอารมณ์ ความเหงาประเภทนี้สามารถเกิดขึ้นได้แม้ว่าจะมีผู้คนรอบตัวเรา แต่ก็ไม่สามารถบรรเทาความเหงาได้ อาจทำให้ความเหงายิ่งเพิ่มขึ้นเพราะขาดความเชื่อมโยงทางอารมณ์
ความเหงาเกิดขึ้นเมื่อความต้องการทางอารมณ์และการรับรู้ของเราต่างกัน เราต้องการความสัมพันธ์ที่เติมเต็ม แต่สิ่งที่มีอยู่นั้นกลับไม่สามารถตอบสนองได้ แม้ความเหงาจะสร้างความรู้สึกไม่ดี แต่มันกลับเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการพัฒนามนุษย์ การที่มนุษย์รู้สึกเหงาจะเป็นแรงผลักดันให้แสวงหาความสัมพันธ์กับผู้อื่น และทำให้เกิดการรวมตัวสร้างสังคม ซึ่งช่วยเสริมสร้างความปลอดภัยตามทฤษฎีของ John Cacioppo นักวิทยาศาสตร์ทางประสาทวิทยา
แม้เราจะมีการติดต่อกับผู้คนในสังคมมากมาย ทำไมเราถึงยังรู้สึกเหงาและโดดเดี่ยวท่ามกลางพวกเขาได้? ความแตกต่างอยู่ที่ระดับของการมีปฏิสัมพันธ์ เราอาจไม่ได้มีความใกล้ชิดกับผู้คนรอบตัวเลย หรืออาจแค่เฝ้าดูการปฏิสัมพันธ์ของผู้อื่น หากเป็นเช่นนี้ แสดงว่าความต้องการทางสังคมของเราไม่ได้รับการตอบสนอง จึงไม่แปลกที่เราจะรู้สึกเหงา
ความเหงาของเราไม่ได้เกี่ยวข้องกับจำนวนคนที่อยู่รอบตัว แต่เกี่ยวกับคุณภาพของความสัมพันธ์ หากไม่มีความสัมพันธ์ที่แท้จริง การมีปฏิสัมพันธ์ที่ใกล้ชิด หรือการที่เรารู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม แม้จะอยู่ท่ามกลางผู้คนมากมายก็ยังคงรู้สึกเหงาและโดดเดี่ยวจนกัดกินใจ เราจะรู้สึกเหมือนอยู่คนเดียวแม้มีคนล้อมรอบตัว
ความโดดเดี่ยว เกิดจากการขาดการเชื่อมโยง
เนื่องจากมนุษย์เป็นสัตว์สังคมที่มีความต้องการเชื่อมโยงกับผู้อื่น ความต้องการการยอมรับและเป็นส่วนหนึ่งของสังคมเป็นสิ่งที่มีอยู่ในทุกลำดับขั้นของความต้องการมนุษย์ หากความต้องการนี้ไม่ได้รับการตอบสนอง อาจนำไปสู่ความเหงาและความโดดเดี่ยวได้ง่าย ความเหงาและความโดดเดี่ยวจึงเป็นความรู้สึกที่ท้าทายมนุษย์ เพราะมันต้องการการตอบสนองจากทั้งสองฝ่าย หากอีกฝ่ายไม่ตอบสนองหรือเราเองไม่สามารถเชื่อมโยงได้ ความเชื่อมโยงก็จะไม่เกิดขึ้น
ความโดดเดี่ยวเกิดจากการที่เรา “ขาดการเชื่อมโยง” กับผู้อื่น แม้จะมีผู้คนมากมายอยู่รอบตัว แต่ถ้าเราไม่ได้มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับใคร เราก็ยังคงรู้สึกโดดเดี่ยวเหมือนเดิม ไม่ต่างจากการอยู่คนเดียว
ความโดดเดี่ยวคือการตระหนักว่า “เรามีแค่ตัวเอง” เพราะเราไม่ได้ถูกเติมเต็มให้เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม จึงต่างจากความเหงาที่เกิดจากการแยกตัวออกจากสังคม เพราะความโดดเดี่ยวเป็นความเหงาที่เกิดขึ้นในสังคมที่ไม่มีความเชื่อมโยงกับใคร เราอาจนั่งอยู่ท่ามกลางผู้คนมากมาย แต่กลับไม่มีความรู้สึกใกล้ชิดกับใครสักคน เหมือนนั่งมองผู้อื่นที่มีปฏิสัมพันธ์กัน แต่เราไม่รู้สึกอบอุ่น
ความโดดเดี่ยวไม่ได้เกิดจากการแยกตัวเองออกจากสังคม แต่เกิดจากการที่เราอยู่ในสังคมแล้วรู้สึกว่าตัวเองไม่เข้ากับใคร ความรู้สึกนี้อาจมาจากตัวเราเองที่มีปัญหาด้านการสื่อสาร อาจจะรู้ว่าตัวเองคิดอะไร แต่ไม่สามารถสื่อสารออกไปให้คนอื่นเข้าใจในแบบเดียวกับที่เราคิด หรือแม้จะสื่อสารแล้วคนอื่นก็ไม่เข้าใจตรงกับที่เราต้องการ ทำให้เกิดความเข้าใจผิดและห่างเหิน ความไม่เข้าใจนี้ทำให้เราเริ่มห่างจากคนอื่นไปเรื่อย ๆ
อีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เรารู้สึกโดดเดี่ยวคือการที่เรากลัวการสร้างความสัมพันธ์ เริ่มจากการที่เราไม่ไว้ใจคนอื่น เมื่อมีคนเข้าหาเรากลับถอยห่าง หรือกลัวการถูกปฏิเสธ จึงไม่กล้าเริ่มต้นการสร้างความสัมพันธ์ ความรู้สึกนี้เกี่ยวข้องกับความไม่มั่นใจในตัวเองและการที่เรามองว่าตัวเองไม่ดีพอ ความคิดแบบนี้ทำให้เราไม่กล้าที่จะเริ่มต้นสร้างมิตรภาพ แม้แต่ความสัมพันธ์เล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ยังปฏิเสธ
บางทีเราอาจรู้สึกโดดเดี่ยวเพราะเราพึ่งพาคนอื่นมากเกินไป เมื่อเราประเมินคุณค่าของตัวเองจากการกระทำของผู้อื่น เราคาดหวังให้คนอื่นแสดงออกตามความคาดหวังของเราเพื่อให้รู้สึกมีคุณค่า ถ้าผลลัพธ์ไม่ได้ตามที่คาดหวัง เราจะรู้สึกผิดหวังและคิดว่าตัวเองไม่มีความสำคัญ ซึ่งทำให้เราสร้างกำแพงและห่างจากคนอื่นมากขึ้น ความรู้สึกโดดเดี่ยวจึงครอบงำเรา
ในยุคปัจจุบัน เรามักพบว่าหลายคนพยายามสร้างความสัมพันธ์ที่ดูเหมือนจะมีมากมาย แต่แท้จริงแล้วกลับขาดคุณภาพ คนเหล่านี้มักจะมีเพื่อนมากมาย ดูเหมือนว่าเป็นคนที่เฟรนด์ลี่และเข้ากับใครก็ได้ แต่กลับพบว่าไม่มีใครที่รู้สึกสนิทใจจริง ๆ จึงไม่กล้าที่จะบอกว่าเราสนิทกับใคร เพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะไม่คิดแบบเดียวกัน เมื่อถึงเวลาที่ต้องการพูดคุยหรือปรึกษาใคร ก็กลับไม่รู้จะเลือกใครดี แม้จะมีช่องทางติดต่อกับทุกคน แต่กลับรู้สึกเหมือนตัวเองไม่มีใครเลย
หากคุณเป็นคนที่มีเพื่อนจำนวนมาก แต่กลับรู้สึกว่าไม่มีใครที่สนิทด้วย ลองหันมาทบทวนตัวเองว่าเคยพยายามเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อให้ได้เพื่อนหรือไม่ บางทีคุณอาจจะพยายามเข้าไปในกลุ่มสังคมที่ไม่คุ้นเคย ออกจาก comfort zone เพื่อตามหามิตรภาพใหม่ ๆ พบปะผู้คนใหม่ ๆ คุณอาจแลกช่องทางการติดต่อกัน แต่กลับพบว่าคนเหล่านั้นไม่ใช่เพื่อนในแบบที่คุณต้องการ ความรู้สึกนี้อาจทำให้คุณรู้สึกเหงาและโดดเดี่ยวมากยิ่งขึ้น ทั้งที่มีผู้คนมากมายรอบตัว
ถ้าเรามีความสัมพันธ์ที่ขาดการพัฒนาและมุ่งเน้นที่จำนวนมาก ๆ สุดท้ายมันอาจทำให้เรารู้สึกเหนื่อยกับการเข้าสังคมได้ เพราะความสัมพันธ์ที่เราสร้างขึ้นแบบเร่งด่วนจะขาดขั้นตอนการสร้างความสนิทสนม เราต้องเข้าใจว่า การจะเป็นเพื่อนที่สนิทกันนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องใช้เวลาในการทำความรู้จักและเข้าใจกันอย่างลึกซึ้ง จนกระทั่งเรารู้สึกใกล้ชิดเพียงพอที่จะพูดคุยเรื่องยาก ๆ แต่หากไม่มีการพัฒนาความสัมพันธ์อย่างแท้จริง ทุกคนก็จะเป็นแค่เพื่อนทั่ว ๆ ไป และความรู้สึกโดดเดี่ยวจะตามมาได้ง่าย ๆ แม้จะมีเพื่อนมากมายรอบตัว