
เมื่อความรักเข้ามาทักทายและเติมเต็มหัวใจ หลายคนหวังให้ความรักนั้นยืนยาวไปตลอด แต่เรามักจะพบว่าความหวังเหล่านั้นมักจบลงด้วยความผิดหวังบ่อยครั้ง เนื่องจากความรักและความสัมพันธ์ของคนสองคนมักมีอันต้องจบลง ซึ่งสาเหตุหนึ่งที่เป็นปัญหาคือการที่เราเร่งรีบในการสร้างความสัมพันธ์จนเกินไป
มีหลายครั้งที่คุณรู้สึกว่าความรักมันดำเนินไปเร็วกว่าที่คาด คำเริ่มต้นอาจจะสดใสและเต็มไปด้วยความหวัง แต่เมื่อเวลาผ่านไปคุณกลับรู้สึกได้ถึงผลกระทบจากการไม่ให้เวลากับความรักอย่างเพียงพอ จนกระทั่งคุณอยากย้อนเวลาไปใช้เวลามากขึ้นในช่วงเริ่มต้นความสัมพันธ์นั้น แต่เมื่อถึงเวลานั้น ความรักก็ได้แตกสลายไปแล้ว การเข้าใจว่าไม่ควรเร่งรีบในการเริ่มต้นความรักจึงเป็นสิ่งสำคัญ
ความสัมพันธ์ครั้งใหม่อาจเข้าข่าย Rebound Relationship
หลายคนมักรีบเริ่มความสัมพันธ์ใหม่หลังจากความรักครั้งเก่า โดยไม่ทันได้ตระหนักว่ามันเป็นเพียงการหาคนใหม่มาแทนที่ในช่วงที่รู้สึกเหงาหรือเศร้า การตั้งความหวังหรือความรู้สึกจริงจังกับคนใหม่ในช่วงนี้จึงอาจทำให้เกิดความสัมพันธ์ที่ไม่ยั่งยืน และอาจทำให้คนใหม่เกิดบาดแผลทางใจ เพราะเรายังไม่พร้อมที่จะเปิดใจให้กับความรักที่แท้จริง
มันคือกระบวนการการเรียนรู้ที่จะรักอย่างค่อยเป็นค่อยไป
การสร้างความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนไม่ได้เป็นเพียงแค่การรักกัน แต่มันยังต้องมีการปรับตัวและเข้าใจซึ่งกันและกัน ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นเมื่อเราทุ่มเทเวลาให้กับการศึกษาความคิดและความรู้สึกของกันและกัน หากเรารอคอยและเดินตามกระบวนการที่ค่อยเป็นค่อยไป เราจะได้เรียนรู้ที่จะรักอย่างแท้จริง แต่หากรีบเร่งไปเพียงเพราะความตื่นเต้น ความรักอาจจะจบลงอย่างรวดเร็วและทิ้งความสับสนไว้
เพราะเราสามารถตัดสินใจผิดพลาดได้
เมื่อเราดำเนินความสัมพันธ์อย่างเร่งรีบ เราจะขาดการพิจารณาและประสบการณ์ที่ได้จากการใช้เวลาเรียนรู้ การตกหลุมรักอย่างสุดใจอาจทำให้เรามองสิ่งที่ไม่ดีออกไปได้ง่าย ๆ และไม่รับฟังคำเตือนจากคนรอบข้าง จนเมื่อเรามาถึงจุดที่รู้สึกว่ากำลังฝืนตัวเองเพราะกลัวว่าจะไม่มีความรัก ความผิดพลาดในการตัดสินใจจึงเกิดขึ้น เพราะเราไม่รู้ว่าสิ่งที่เลือกนั้นไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเรา และเมื่อสายเกินไปแล้ว เราอาจกลายเป็นผู้ที่ทำร้ายตัวเอง ดังนั้นก่อนที่จะมั่นใจในความสัมพันธ์ ควรใช้เวลาในการเข้าใจคนที่เราจะมอบความรักให้
บรรเทาความกังวลและความยุ่งยากในอนาคต
การให้เวลาในความสัมพันธ์ไม่เพียงแต่ช่วยให้เราตัดสินใจได้ดีขึ้น แต่ยังเป็นการศึกษาซึ่งกันและกันเพื่อเข้าใจความรักอย่างแท้จริง ช่วงเวลาที่ใช้ในการทำความเข้าใจกันและกันจะช่วยให้ภาพความรักนั้นชัดเจนและกระจ่างขึ้น ถ้าเราตัดสินใจรีบเร่งไป ความสัมพันธ์ก็จะจบลงเร็วขึ้นเท่านั้น เช่นเดียวกับคำที่ว่า “รักง่าย หน่ายเร็ว” เพราะคนสองคนไม่ได้มีเวลาศึกษากันและกันอย่างเต็มที่ เราอาจจะเลือกคนผิดในท้ายที่สุด และต้องเผชิญกับผลกระทบที่ไม่คู่ควร ดังนั้น ก่อนที่จะให้คำมั่นในความรัก ควรให้เวลากับมันมากขึ้นก่อน
การให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ ใช้ได้กับทุกอย่าง
เคยได้ยินคำว่า “ให้กาลเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์” กันบ้างไหม ทุกสิ่งในโลกนี้ล้วนต้องการเวลาเพื่อให้เรามองเห็นความชัดเจนและเข้าใจมากขึ้น เมื่อเวลาผ่านไปจะช่วยให้เราเห็นว่าความรู้สึกในความสัมพันธ์นั้นยังคงมั่นคงอยู่หรือเป็นเพียงความตื่นเต้นชั่วขณะในช่วงเริ่มต้น กาลเวลาจะช่วยให้เราเข้าใจว่าความสัมพันธ์นี้จริงจังหรือแค่ชั่วคราว ช่วยเผยตัวตนที่แท้จริงของคนในความรัก และความละเมียดในการสร้างความสัมพันธ์ทำให้มันมั่นคงมากขึ้น ดังนั้น ให้เวลากับมันสักนิดก่อนตัดสินใจ ผลลัพธ์ที่ได้จะดีกว่าการเร่งรีบ
การให้เวลาในความรักไม่ได้หมายความว่าเราต้องรอคอยแบบไร้จุดหมาย ทุกสิ่งทุกอย่างมีขอบเขตของมัน หากความสัมพันธ์เริ่มมีความชัดเจนและเป็นไปในทิศทางที่ดี ก็สามารถเดินหน้าต่อไปได้ แต่ถ้าความสัมพันธ์ยังคงไม่เห็นอนาคตหรือไม่มีความหวังอะไรเลย แม้จะผ่านเวลาไปนาน ก็ถึงเวลาที่ต้องตัดสินใจจบลง นี่แหละคือเหตุผลที่เราควรให้เวลากับความรักเพื่อให้มันเปิดเผยให้เห็นความจริงใจ แทนที่จะรีบร้อนตัดสินใจในช่วงที่ความรักกำลังสดใส แต่ไม่ชัดเจนว่าจะไปต่ออย่างไร