ดาวน์โหลดได้แล้ว! E-Photobook ‘โม่ยจัง-ชลฐิติรัตน์ แก้วแดง’ ที่ได้ร่วมงานกับ Mars Plus ในการถ่ายแฟชั่นเซ็กซี่มาระยะหนึ่ง เปิดเผยชีวิตและเส้นทางในวงการคอสเพลย์ รวมถึงแฟชั่นหลากหลายสไตล์ในคอนเซ็ปต์เซ็กซี่ตามสไตล์ของคอสเพลเยอร์ตัวแม่ที่คัดสรรมาเพื่อแฟนคลับและชาว Mars Plus โดยเฉพาะ มั่นใจว่าแฟนๆ ห้ามพลาด!
เส้นทางชีวิตของ ‘โม่ยจัง-ชลฐิติรัตน์ แก้วแดง’ สาวคอสเพลเยอร์และนางแบบชื่อดังที่หลงรักการคอสเพลย์ตั้งแต่เด็กจนกลายเป็นคอสเพลเยอร์ตัวแม่ของวงการ เธอตัดสินใจทิ้งทุกสิ่งตั้งแต่ 15 ปี เพื่อเดินตามเส้นทางที่เธอรัก แม้จะต้องเจอกับอุปสรรคมากมาย แต่เธอก็ไม่ยอมแพ้และมุ่งมั่นจนประสบความสำเร็จในวงการคอสเพลย์และการถ่ายแบบ “การสู้เพื่อความอยู่รอดเป็นเรื่องปกติของมนุษย์” และเธอยังเสริมว่า “ถ้าเราดูถูกตัวเองก็เท่ากับว่าเราแพ้แล้ว”

ก่อนจะก้าวสู่การเป็นคอสเพลเยอร์
เธอเคยเป็นเด็กนักเรียนที่ต้องเรียนหนัก เพราะคุณแม่มีความคาดหวังสูงเกี่ยวกับเกรด เธอไม่เคยมีเวลาทำกิจกรรมกับเพื่อน เพราะต้องตั้งใจเรียนเพื่อสร้างอนาคตที่ดีเชื่อว่าเรียนดีวันนี้จะทำให้อนาคตสดใส
เริ่มหลงใหลในการแต่งคอสเพลย์เมื่อไหร่ และมีคอสเพลเยอร์ที่เป็นไอดอลบ้างไหม
ในช่วงวัยเรียน การ์ตูนเป็นสิ่งที่ช่วยให้เราผ่อนคลายค่ะ กลับจากโรงเรียนเราจะดูการ์ตูนไปพร้อมกับทำการบ้าน ซึ่งทำให้เราคิดอยากลองคอสเพลย์ แต่ตอนนั้นยังไม่ได้หลงใหลถึงขั้นคลั่งไคล้แค่รู้สึกชอบที่จะแต่งตัวให้เหมือนตัวละครนั้นๆ สำหรับคอสเพลเยอร์ที่เป็นไอดอลของโม่ยคือคุณ ‘เอนาโกะ’ คอสเพลเยอร์อันดับหนึ่งของญี่ปุ่นที่เริ่มคอสเพลย์ตั้งแต่มัธยมต้นและทำมานานมาก สิ่งที่โม่ยชื่นชมในตัวเขาคือการแสดงความสดใสออกมาได้ดีและการแต่งตัวของเขาที่เป๊ะมากๆ เขามีความเป็นมืออาชีพและการทำงานที่สมบูรณ์แบบ

คอสเพลย์กับการถ่ายแบบเซ็กซี่ต่างกันอย่างไร
การถ่ายแบบเซ็กซี่เราต้องนำเสนอความเซ็กซี่ในตัวเอง เช่นถ่ายในชุดบิกินี่ต้องสามารถพรีเซนต์ความเซ็กซี่ในแบบของตัวเองได้ แต่ไม่มีข้อกำหนดชัดเจนว่าใครใส่บิกินี่ต้องทำท่าทางแบบไหน ส่วนคอสเพลย์มันเกี่ยวกับการสวมชุดที่ต้องมีตัวละครและคาแร็กเตอร์ที่ต้องนำเสนอ อย่างเช่นถ้าเราสวมชุดตัวละครหนึ่ง เราก็ต้องทำท่าทางและมีบุคลิกที่เหมือนตัวละครนั้นๆ ทุกอย่างต้องสะท้อนคาแร็กเตอร์ได้อย่างชัดเจน
ระหว่างคอสเพลย์และการถ่ายแบบเซ็กซี่ โม่ยจังมีขีดจำกัดของความเซ็กซี่ของตัวเองไหม
ลิมิตของการถ่ายแบบเซ็กซี่ของหนูคือลุคเซ็กซี่ทั่วไป มีท็อปเรตบ้าง แต่ไม่ถึงขั้นเปลือยเห็นหมดนะ มีการปิดจุกเซฟไว้ หนูไม่ถ่ายนู้ด ส่วนคอสเพลย์ก็จะคอสตัวละครที่ชอบไปเรื่อยๆ ถ้ามีเวลาว่างก็จะแต่งคอสเพลย์ หรือถ้ามีงานถ่ายแบบเซ็กซี่ก็จะถ่ายตามลิมิตที่เรากำหนดเอง ตามชุดและตามงานใหม่ๆ ที่มี เพราะในชีวิตคนเราต้องแบ่งเวลาให้ดี ทำอย่างไรให้ทั้งสองอย่างบาลานซ์กัน สำหรับโม่ยทั้งคอสเพลย์และถ่ายแบบเซ็กซี่ก็ใช้การถ่ายรูปเหมือนกันเลยไม่ได้รู้สึกลำบากอะไรมาก

จากคอสเพลย์สู่การถ่ายแบบเซ็กซี่ ครอบครัวและคนรอบข้างคิดเห็นอย่างไร
เพื่อนและคนรู้จักที่เคยเห็นเราคอสเพลย์ก็รู้สึกตกใจบ้างค่ะ แต่เขาก็เข้าใจว่าเราทำงานไม่ใช่ทำแบบไร้เหตุผล ทุกคนอาจจะไม่อยากให้เราถ่ายแบบเซ็กซี่ แต่ทำยังไงได้ล่ะ ทุกคนตามงานเรา แต่ไม่ได้ดูแลชีวิตเรา เขาก็เลยให้กำลังใจ ส่วนคุณแม่ก็เฉยๆ ค่ะ ถามว่าโม่ยถ่ายงานเซ็กซี่เหรอ ก็ถ่ายไป เพราะคุณแม่เชื่อว่าเราทำงานอะไรก็ได้ที่สุจริตและทำให้เรามีรายได้อยู่ได้โดยไม่เดือดร้อนคนอื่น บางคนอาจจะถามว่าคุณแม่โอเคไหม คุณแม่บอกว่าเอาเวลาที่จะถามว่าโอเคไหม ไปทำงานเถอะ ไม่ต้องไปสนใจเรื่องคนอื่น ถ้าคุณแม่ไม่โอเคคงไม่ได้ทำมาจนถึงทุกวันนี้หรอก ในความจริง มันเป็นยุคสมัยไหนแล้ว สิ่งที่ทำมันแค่ชุดเซ็กซี่ไม่ใช่การแก้ผ้า มันเป็นการทำงานในสตูดิโอ บางทีสังคมไทยอาจจะยังไม่ค่อยคุ้นเคยกับสิ่งนี้ ทำให้บางคนตกใจ แต่ถ้าเรานึกถึงการที่เราเห็นคนใส่บิกินี่เดินริมชายหาดก็ไม่ได้รู้สึกอะไร แล้วทำไมคนใส่บิกินี่ถ่ายรูปในสตูดิโอถึงต้องตกใจล่ะ
การคอสเพลย์และการถ่ายแบบมีทักษะที่แตกต่างกัน เรียนรู้และปรับตัวอย่างไร
จริงๆ แล้วการเป็นคอสเพลเยอร์ต้องมีทักษะในการโพสท่าอยู่แล้วค่ะ แต่ว่าท่าของแต่ละตัวละครมันไม่เหมือนกัน เช่นตัวละครชายต้องแมนๆ ส่วนตัวละครหญิงที่เป็นผู้หญิงขี้งอน เจ้าน้ำตา หรือเซ็กซี่ก็จะมีท่าทางต่างกัน การที่โม่ยมานั่งเป็นนางแบบจึงไม่ยาก เพราะมีพื้นฐานจากการคอสเพลย์มาก่อน คอสเพลย์สำหรับโม่ยมันมีประโยชน์หลายอย่างนะ อย่างการกล้าแสดงออก บางคนแต่งคอสเพลย์แล้วไปเดินงาน แต่ไม่กล้าให้ถ่าย แต่โม่ยทำให้เป็นเรื่องธรรมดา มันฝึกให้เรากล้าแสดงออก เราเรียนรู้การทำงานกับคนหมู่มาก การจัดการเรื่องการเงิน เช่นเดือนนี้ได้เท่าไหร่ จะซื้อชุดคอสเพลย์อย่างไรให้สมดุลกับรายได้ การฝึกทักษะการแต่งหน้า เซตวิก ทำพร็อพ รวมถึงการฝึกวินัยในเรื่องการตรงต่อเวลา เพราะบางครั้งงานคอสเพลย์ไม่ใช่แค่เราคนเดียว มีเพื่อนๆ ร่วมคอสด้วย ซึ่งมันจะฝึกให้เรารู้วิธีอยู่ร่วมกับคนรอบข้างอย่างไรไม่ให้สร้างความเดือดร้อนให้ใคร
ทักษะในการพรีเซ็นต์ความเซ็กซี่ของโม่ยคือการรู้จักจุดเด่นของตัวเอง เช่น บางคนอาจจะหน้าอกไม่ใหญ่ แต่สะโพกใหญ่และก้นสวย เราก็ต้องเน้นพรีเซ็นต์จุดที่มั่นใจและสวยที่สุดของตัวเองออกมา นี่เป็นเคล็ดลับที่ใช้ได้กับการถ่ายรูปและทุกๆ สถานการณ์ที่ต้องพรีเซ็นต์ตัวเอง

ส่วนที่โม่ยจังคิดว่าเป็นจุดที่มีเสน่ห์และเซ็กซี่ที่สุดของตัวเอง
สะโพกค่ะ ทุกคนมักบอกว่าชอบสะโพกของโม่ยมาก มันมีเคิร์ฟและทรงที่สวย หลายคนถามว่าโม่ยทำศัลยกรรมก้นหรือเปล่า แต่จริงๆ แล้วไม่ได้ทำอะไรเลยนะ อาจจะเป็นเพราะตอนสมัยเรียนที่โม่ยวิ่ง เล่นวอลเลย์บอล กระโดด เล่นบาส มันช่วยให้ร่างกายมีทรงดีขึ้นค่ะ
ยังมีอะไรที่โม่ยจังอยากต่อยอดจากสิ่งที่ทำอยู่ตอนนี้บ้าง เช่นการเรียนต่อที่ญี่ปุ่น
โม่ยคิดเรื่องการเรียนต่อแล้วค่ะ มีรุ่นพี่แนะนำว่าในญี่ปุ่นมีโรงเรียนสายอาชีพ ถ้าเรามีทุน อายุถึง และภาษาได้ เราก็สามารถไปเรียนได้เลย โม่ยคิดว่าเป็นโอกาสดีที่ได้เรียนต่อในประเทศที่เป็นต้นกำเนิดของคอสเพลย์ ถ้าจะเทียบกับประเทศไทย การคอสเพลย์ที่ไทยยังไม่บูมเท่ากับญี่ปุ่น คนส่วนใหญ่ยังไม่เข้าใจหรือไม่รู้ว่าเป็นอาชีพที่สามารถสร้างรายได้จริงๆ และในญี่ปุ่นการไปเดินงานคอสเพลย์จะได้รับการสนับสนุนมากกว่า เพราะมีเอเจนซี่ที่จ้างคอสเพลเยอร์มาทำงาน ในขณะที่ที่ไทยบางคนยังต้องเดินงานโดยไม่มีรายได้เลย ด้วยเหตุนี้โม่ยเลยคิดจะไปลองทำที่ญี่ปุ่นดู คนอาจจะบอกว่าไปไม่ได้หรอก แต่โม่ยจะบอกว่าอย่ามาบอกว่าไปไม่ได้ เพราะถ้าหนูไม่ยอมแพ้ก็จะสู้ต่อไป ถ้าหนูยอมแพ้ก็จะอยู่แค่ในประเทศไทยไม่ได้ไปญี่ปุ่นค่ะ

สามารถดาวน์โหลดได้ที่นี่
https://www.ookbee.com/shop/magazine/MARS_PLUS/7b8e2110-5e49-4c26-a3ee-5e9bca324675/mars-plus-moiichan
https://www.mebmarket.com/ebook-136767-Mars-plus-Moii-chan