"LIFE IS LIKE A BOX OF CHOCOLATES, YOU NEVER KNOW WHAT YOU GONNA GET."
ไม่ว่าจะเป็นคนที่ชื่นชอบภาพยนตร์หรือไม่ เชื่อว่าทุกคนก็คงจะคุ้นเคยกับวลีอมตะนี้กันดี เพราะมันไม่ได้มีแค่รางวัลออสการ์ 6 สาขาเท่านั้น แต่ภาพยนตร์ Forrest Gump หรือ อัจฉริยะปัญญานิ่ม ที่ออกฉายในปี 1994 กำกับโดย โรเบิร์ต เซเม็กคิส ยังมีอิทธิพลอย่างมากในหลายด้าน
Forrest Gump เป็นภาพยนตร์ที่นำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับชาตินิยมอเมริกันได้อย่างชัดเจนและตรงไปตรงมา ตั้งแต่วันแรกที่ออกฉาย เรื่องราวการผจญภัยของชายผู้มีจิตใจดีชื่อ ฟอเรสต์ กั๊มป์ ก็ได้สร้างความประทับใจในใจคนอเมริกันและส่งผลต่อหลายๆ สิ่งในเรื่องที่ได้รับการตอบรับอย่างดี
หนึ่งในสิ่งที่โดดเด่นคือรองเท้า Nike Cortez ที่มีความสำคัญต่อชีวิตของตัวละคร ฟอเรสต์ กั๊มป์ และเป็นหนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ทำให้รองเท้าคู่นี้กลายเป็นสัญลักษณ์อมตะที่ยังคงมีความนิยมจนถึงปัจจุบัน
สามารถติดตามเรื่องราวของรองเท้า Nike Cortez และความสำคัญในภาพยนตร์เรื่อง Forrest Gump ได้ที่ Main Stand
รองเท้า NIKE ที่มีมาตั้งแต่ก่อนชื่อ NIKE
ชื่อของ Nike เป็นที่รู้จักกันในฐานะบริษัทผลิตและจัดจำหน่ายอุปกรณ์กีฬาในปี 1971 แต่หากจะพูดถึงรองเท้ารุ่น Nike Cortez ต้องย้อนกลับไปในยุค 60s เมื่อ บิลล์ บาวเวอร์แมน (Bill Bowerman) และ ฟิลล์ ไนท์ (Phil Knight) ผู้ก่อตั้ง Nike เพิ่งเริ่มต้นทำบริษัทชื่อว่า Blue Ribbon Sports ธุรกิจหลักของบริษัทนี้คือการนำเข้าผลิตและออกแบบรองเท้ากีฬาจากญี่ปุ่น ร่วมกับแบรนด์ชื่อดังอย่าง Onitsuka Tiger

ในเดือนสิงหาคมปี 1966 Blue Ribbon Sports ได้สั่งซื้อรองเท้ารุ่น TG-24 จาก Onitsuka Tiger จำนวน 300 คู่ ก่อนจะปรับดีไซน์และนำมาจัดจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาในชื่อ "TG-24/Shoe designed by Bill Bowerman w/Mexico Line" ถึงแม้ชื่อจะยาวเหยียดเหมือนการซอยเข้าไปในบ้าน แต่รองเท้าคู่นี้กลับกลายเป็นที่นิยมจนหมดเกลี้ยง 300 คู่ที่สั่งมาครั้งแรกในเวลาอันรวดเร็ว และทำให้ Blue Ribbon Sports สั่งเพิ่มเรื่อยๆ จนทำให้รองเท้าคู่นี้กลายเป็นสินค้าขายดีประจำปี 1966
"เสือจะล่าเหยื่อได้ดีที่สุดก็ต่อเมื่อมันหิว" บิลล์ บาวเวอร์แมน กล่าวไว้ และเสริมว่าเหตุผลที่ TG-24/Shoe designed by Bill Bowerman w/Mexico Line ขายดีจนกลายเป็นเทรนด์ก็เพราะการออกแบบที่เหมาะสมกับหลักอากาศพลศาสตร์ พื้นรองเท้าชั้นกลางมีโฟมนุ่มที่ช่วยรองรับแรงกระแทก ทำให้การเดินของผู้สวมใส่คล่องตัวและดูเฉียบคมเหมือนเสือโหยล่าเหยื่อ

ในปี 1967 หลังจากที่ TG-24/Shoe designed by Bill Bowerman w/Mexico Line ประสบความสำเร็จอย่างสูง Blue Ribbon Sports ต้องการพัฒนาและทำให้รองเท้ารุ่นนี้มีความโดดเด่นยิ่งขึ้น โดยเชื่อว่าการตัดทอนชื่อให้กระชับจะช่วยเพิ่มความน่าสนใจ จึงปรับชื่อใหม่ให้สั้นลงเหลือแค่ TG-24 Mexico เท่านั้น
การเปลี่ยนชื่อครั้งนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อนปี 1968 ที่จัดขึ้นในเม็กซิโก และไม่นานหลังจากนั้น พวกเขาก็เกิดความคิดว่า ชื่อ Mexico อาจจะไม่น่าสนใจพอ จึงตัดสินใจเปลี่ยนเป็น Aztec ซึ่งมีความหมายถึงอาณาจักรโบราณของเม็กซิโก ดูจะมีเสน่ห์มากกว่า
เสียดายที่ไอเดียการเปลี่ยนชื่อเป็น Aztec ต้องถูกยกเลิกไปเนื่องจากชื่อมันไปคล้ายกับรองเท้ารุ่น "Azteca Gold" ของแบรนด์ adidas มากเกินไป ซึ่งอาจจะทำให้เกิดปัญหาทางกฎหมายได้ รองเท้ารุ่น Aztec จึงไม่เคยถูกผลิตออกมาเลย
หลังจากการประชุมและระดมความคิด ในที่สุดพวกเขาก็ตัดสินใจเลือกชื่อรุ่น Cortez ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากชื่อของ "Hernán Cortés" ผู้ที่พิชิตอาณาจักร Aztec ถึงแม้จะไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการ แต่ค่อนข้างชัดเจนว่าเป็นการเสียดสี adidas อย่างน่ารักๆ ด้วยการบอกว่า "รองเท้าของเราดีกว่าแน่นอน"
TG-24 Cortez กลายเป็นรองเท้าขายดีที่สุดตลอดกาลของ Blue Ribbon Sports ภายในเวลาไม่นาน บริษัทของ บิลล์ และ ฟิลล์ รวมถึง Onitsuka Tiger ก็ร่วมมือกันสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ
แต่ความสำเร็จไม่ได้ยั่งยืนไปตลอด โดยเฉพาะในโลกของธุรกิจที่เต็มไปด้วยผลประโยชน์ เมื่อเข้าสู่ช่วงต้นยุค 70s ความสัมพันธ์ระหว่าง Blue Ribbon Sports กับ Onitsuka Tiger เริ่มมีปัญหา ก่อนที่ในปี 1971 Blue Ribbon Sports จะเปลี่ยนชื่อเป็น Nike และขยายธุรกิจจากแค่การนำเข้ารองเท้าเป็นการผลิตและจำหน่ายเองทั้งหมด

รองเท้ารุ่นแรกที่ออกภายใต้ชื่อ Nike คือ Nike Cortez ส่วนทางด้าน Onitsuka Tiger ก็ได้เปลี่ยนชื่อรุ่นจาก TG-24 Cortez เป็น Tiger Cortez ทั้งสองแบรนด์ต่างก็มุ่งมั่นขายสินค้าของตนเอง แม้ว่าชื่อจะเหมือนกัน แต่รูปลักษณ์บางอย่างก็มีความแตกต่างกัน แต่ไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่า Nike Cortez ได้รับแรงบันดาลใจจาก TG-24 Cortez อย่างเต็มที่
ปัญหาคือใครจะได้ครอบครองชื่อ CORTEZ เพียงผู้เดียว? การต่อสู้ในคดีความระหว่างสองฝ่ายกลายเป็นเรื่องใหญ่จนต้องขึ้นศาล และในปี 1974 ศาลของสหรัฐอเมริกาได้ตัดสินให้ชื่อ Cortez เป็นลิขสิทธิ์ของ Nike ซึ่งส่งผลให้ Tiger Cortez ต้องเปลี่ยนชื่อเป็น Tiger Corsair แม้ว่าจะเปลี่ยนชื่อ แต่ยอดขายก็ไม่ลดลง เพราะ Tiger Corsair ยังคงเป็นรุ่นขายดีที่อยู่ในใจแฟน ๆ ของแบรนด์
ต่อมา Nike Cortez ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง มีการออกโมเดลใหม่ ๆ เช่น ในปี 1975 มี Nike Nylon Cortez ที่ใช้ไนลอนเบาเป็นจุดเด่น และในปี 1976 ก็มี Senorita Cortez ซึ่งได้รับการออกแบบให้มีรูปทรงที่บอบบางขึ้น เพื่อตอบโจทย์ตลาดผู้หญิงโดยเฉพาะ

Nike Cortez กลายเป็นรองเท้าสุดอมตะเมื่อมันก้าวเข้าสู่วงการวัฒนธรรมป๊อปคัลเจอร์หลังจากยุค 80s ผ่านไป โดยเฉพาะการปรากฏในภาพยนตร์ที่มีชื่อเสียงในอเมริกา อย่าง Forrest Gump ซึ่งช่วยยกระดับชื่อเสียงของรองเท้าคู่นี้ไปอีกระดับ
RUN, CORTEZ, RUN!
ก่อนที่ Nike Cortez จะได้รับความนิยมในภาพยนตร์ Forrest Gump ในยุค 90s คงต้องย้อนกลับไปในยุค 80s ที่ Nike Cortez ก็มีบทบาทสำคัญในวัฒนธรรมป๊อปคัลเจอร์และได้รับความนิยมไม่แพ้กันในช่วงนั้น
แฟนเพลงในยุค 80s คงรู้ดีว่า เอลตัน จอห์น (Elton John) เป็นศิลปินที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากขนาดไหน แม้ว่าเขาจะยังไม่ได้รับยศท่านเซอร์ในตอนนั้น แต่เพลงของเขาแทบทุกเพลงก็ล้วนติดชาร์ตในช่วงเวลานั้น ถ้าจะพูดว่าเขาคือหนึ่งในศิลปินที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกในยุค 80s ก็คงไม่มีใครค้านได้
การที่กล่าวถึง เอลตัน จอห์น นั้นเป็นเพราะเขาคือผู้สนับสนุนสำคัญของรองเท้า Nike Cortez ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับ Nike เริ่มต้นตั้งแต่ปลายยุค 70s เมื่อเขาซื้อสินค้า Nike ด้วยมูลค่าสูงถึง 14,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หลังจากนั้นทั้งสองก็เป็นพันธมิตรที่ดีและร่วมงานกันมานาน

จุดเด่นสำคัญของเรื่องนี้คือครั้งหนึ่งที่ เอลตัน จอห์น ร้องเพลง "Good Friends at Nike" เพื่อแสดงถึงมิตรภาพระหว่างเขากับ Nike และในขณะที่เขากำลังเล่นเปียโนอยู่นั้น เขาก็ยกเท้าขึ้นมาพาดกับเปียโน เพื่อให้ทุกคนเห็นว่าเขากำลังสวมรองเท้า Nike Cortez
แม้ว่า เอลตัน จอห์น จะไม่ได้เป็นฑูตทางการค้าของ Nike อย่างเป็นทางการ แต่ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับแบรนด์ก็ยังคงมั่นคงจนถึงปัจจุบัน
เมื่อเข้าสู่ยุค 90s ภาพยนตร์ Forrest Gump ที่เข้าฉายในปี 1994 กลายเป็นหนึ่งในเรื่องสำคัญของยุค โดยเล่าถึงชีวิตของ "ฟอเรสต์ กั๊มป์" (แสดงโดย ทอม แฮงค์ส) ชายหนุ่มที่มีไอคิวเพียง 75 แต่กลับมีการผจญภัยอันน่าทึ่ง ตั้งแต่การร่วมรบในสงครามเวียดนามไปจนถึงการวิ่งทั่วสหรัฐอเมริกา
หนึ่งในฉากที่น่าประทับใจที่สุดในเรื่องคือเมื่อ "เจนนี่ เคอร์แรน" (แสดงโดย โรบิน ไรท์) มอบรองเท้า Nike Cortez สีขาวที่มีโลโก้ Swoosh สีแดงและแถบสีน้ำเงินให้กับฟอเรสต์ ซึ่งรองเท้านี้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้ฟอเรสต์เริ่มต้นการวิ่งทั่วสหรัฐอเมริกาเป็นเวลา 3 ปี

"นี่คือของขวัญที่ดีที่สุดที่เคยได้รับ !" ฟอเรสต์ กั๊มป์ กล่าว
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่า Forrest Gump คือภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จอย่างมหาศาล และมันยังคงเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้คนทั่วโลกมากมาย โดยมีแฟนๆ ล้านคนทั่วโลกที่หลงรักทุกๆ องค์ประกอบของเรื่องนี้ และมันก็ทำให้รองเท้า Nike Cortez ได้รับความรักไปด้วย ทำให้รองเท้ารุ่นนี้กลายเป็นสัญลักษณ์คลาสสิคอมตะตลอดกาลของ Nike
ยังคงยืนหยัดได้อย่างแข็งแกร่ง
มีรายงานว่าเมื่อ Forrest Gump เข้าฉายในปีนั้น ยอดขาย Nike Cortez ในสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้นถึง 40% นอกจากนั้นยังมีรายงานจากทั่วโลกที่ยอดขายเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ แม้ว่าจะไม่มีการระบุเปอร์เซ็นต์ที่แน่ชัด

ตั้งแต่เปิดตัวในปี 1971 Nike Cortez ไม่เคยหายไปจากตลาดเลยแม้แต่นาทีเดียว รองเท้าคู่นี้สามารถครองพื้นที่บนชั้นวางมาเกือบ 50 ปี และเชื่อได้เลยว่าในอนาคตมันยังจะยืนหยัดอยู่อย่างนี้ เพราะนอกจากจะเป็นรองเท้าคลาสสิคที่มีอิทธิพลจาก Forrest Gump แล้ว Nike Cortez ยังสามารถปรับตัวเข้ากับยุคสมัยได้ โดยในปี 2017 Nike ได้ร่วมมือกับศิลปินฮิปฮอปชื่อดัง เคนดริก ลามาร์ (Kendrick Lamar)
สำหรับ Nike Cortez สีเดียวกับในภาพยนตร์ Forrest Gump ที่เคยหยุดผลิตในช่วงกลางปี 2000s ได้กลับมาผลิตใหม่ในปี 2015 และจนถึงปัจจุบัน ทุกคนสามารถหาซื้อรองเท้ารุ่นนี้ได้ง่าย ๆ ไม่ว่าจะสั่งซื้อออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ทางการของ Nike หรือเดินเข้าไปที่ Nike Store ทั่วโลกก็ได้เช่นกัน

ราคาของ Nike Cortez Basic หรือรุ่นของ ฟอเรสต์ กั๊มป์ (หากต้องการรุ่นตรงตามต้นฉบับจะเป็นสี White/Varsity Royal/Varsity Red) อยู่ที่ 3,100 บาท นอกจากนี้ยังมี Nike Classic Cortez SE สำหรับผู้หญิงในราคา 3,300 บาท และ Nike Cortez Basic สำหรับเด็กมีราคาตั้งแต่ 1,500 ถึง 2,800 บาท
แหล่งอ้างอิง:
https://www.unlockmen.com/sneaker-story-nike-cortez/
https://sneakers-magazine.com/history-check-45-years-of-nike-cortez/
https://medium.com/@thesneakulture/everything-you-need-to-know-about-the-nike-cortez-ce86d378bd4d
https://footwearnews.com/2017/fn-spy/entertainment/forrest-gump-shoes-nike-cortez-388967/
https://blog.dtlr.com/2019/07/2-reasons-why-nike-cortez-is-a-pop-icon/
https://www.nike.com/th/w?q=cortez&vst=cortez