
กางเกงยีนส์ในอดีตเคยเป็นเครื่องแต่งกายของคนงานเหมือง ก่อนที่จะกลายเป็นที่นิยมและใช้ได้ในทุกโอกาส ไม่ว่าจะเป็นชุดลำลองหรือแฟชั่น ก็สามารถสวมใส่ได้อย่างเท่และไม่มีตกยุค
นอกจากแบรนด์กางเกงยีนส์ดังๆ อย่าง Levi’s, LEE, Wrangler ที่เราคุ้นเคยกันแล้ว ยังมีแบรนด์จากญี่ปุ่นที่กำลังมาแรงไม่แพ้กันในตอนนี้ ครั้งนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกับ 5 แบรนด์กางเกงยีนส์ ‘Made In Japan’ ที่มีทั้งแบรนด์เก่าแก่และแบรนด์ใหม่ไฟแรง ที่การันตีความคุ้มค่าและดีไซน์ที่เหมาะกับคนรักยีนส์
เสน่ห์ของกางเกงยีนส์สัญชาติญี่ปุ่น
ก่อนที่เราจะไปพบกับ 5 แบรนด์กางเกงยีนส์ เราจะพาคุณไปทำความรู้จักกับประวัติและเสน่ห์ของกางเกงยีนส์ญี่ปุ่นก่อน อุตสาหกรรมการผลิตกางเกงยีนส์ในญี่ปุ่นนั้นมักจะตั้งอยู่ในเมืองฟุกุยามะ จังหวัดฮิโรชิม่า, เมืองอิบาระ และคุรุชิกิ ในจังหวัดโอคายาม่า ซึ่งทั้งสามเมืองนี้ในสมัยเอโดะมีชื่อเรียกแตกต่างกันออกไป คือ “บิเซ็น” (備前/びぜん), “บิจจู” (備中/びっちゅう) และ “บิงโงะ” (備後/びんご) หรือรวมเรียกว่า “ซังบิ” (三備/さんび)
ในอดีตพื้นที่ “ซังบิ” เป็นแหล่งปลูกฝ้ายที่เติบโตอย่างดี เมื่อญี่ปุ่นนำวัฒนธรรมการย้อมผ้าครามเข้ามา จึงทำให้การผลิตผ้าในช่วงเวลานั้นพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว และยังกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการผลิตผ้าทอคุณภาพสูงจากญี่ปุ่น เช่น “คุระชิกิฮันปุ” (倉敷帆布/くらしきはんぷ) และ “บิงโงะคะสุริ” (備後絣/びんごかすり)
สามรากฐานสำคัญที่ส่งต่อกันมาตั้งแต่อดีต ได้แก่ “การย้อมสี”, “การทอผ้า” และ “การตัดเย็บ” ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้การผลิตกางเกงยีนส์ญี่ปุ่นยังคงคุณภาพเยี่ยม และยืนยันได้ถึงความเหนือชั้นของผ้าเดนิมญี่ปุ่น
ในช่วงกลางคริสต์ศตวรรษที่ 20 ญี่ปุ่นเริ่มนำเข้ากางเกงยีนส์และเริ่มจำหน่ายในประเทศ ซึ่งทำให้กางเกงยีนส์กลายเป็นที่นิยมอย่างรวดเร็ว จนเกิดการผลิตกางเกงยีนส์ภายในประเทศตั้งแต่นั้น
กางเกงยีนส์จากญี่ปุ่นที่ผสมผสานกับเทคนิคการผลิตและวัฒนธรรมดั้งเดิมได้รับความสนใจจากแฟชั่นนิสต้าทั่วโลก และพัฒนาจนได้ร่วมงานกับแบรนด์หรูระดับโลก เช่น “GUCCI”, “LOUIS VUITTON” และ “Dior”
สิ่งที่ทำให้กางเกงยีนส์ญี่ปุ่นมีเนื้อผ้านุ่มนวลและมีมิติพิเศษคือการใช้เทคนิคการทอด้วยเครื่องจักรดั้งเดิม นอกจากนี้ยังมีจุดเด่นที่การเย็บริมกางเกง (ริมแดง) ที่ด้านหลังผ้า เพื่อป้องกันการหลุดลุ่ย ใครที่ซื้อกางเกงยีนส์แบรนด์ญี่ปุ่น อย่าลืมสังเกตจุดนี้นะ
5 แบรนด์กางเกงยีนส์คุณภาพจากญี่ปุ่น
มาถึงส่วนที่ทุกคนรอคอยกันแล้วค่ะ! ในบทความนี้ เราจะพาทุกท่านไปรู้จักกับ 5 แบรนด์กางเกงยีนส์คุณภาพจากญี่ปุ่น ซึ่งไม่เพียงแต่ได้รับความนิยมอย่างมาก แต่ยังมีความพิถีพิถันในทุกขั้นตอนการผลิต และยังคงเอกลักษณ์ที่โดดเด่นเอาไว้ จะมีแบรนด์ไหนบ้าง มาดูกันเลย!
1. BLUE BLUE
BLUE BLUE เป็นแบรนด์เก่าแก่ที่เริ่มต้นกิจการตั้งแต่ช่วงหลังปี 1980 โดยร้านจำหน่ายเสื้อผ้าชื่อ Hollywood Ranch Market ที่เป็นของคุณ Seirin Koushi
แบรนด์นี้เน้นการผลิตเสื้อผ้าจากผ้ายีนส์เดนิมเป็นหลัก โดยใช้เทคนิคการย้อมครามจากธรรมชาติ เส้นด้ายแนวตั้งใช้สีจากอินดิโกและแทนนิน ขณะที่เส้นด้ายแนวนอนใช้สีจากแทนนินและสีจากพืชและต้นไม้ ผลลัพธ์คือผ้ายีนส์ที่มีสีสันเป็นเอกลักษณ์ ตัดเย็บอย่างประณีต และมีกลิ่นอายของสไตล์วินเทจ
สำหรับรุ่นที่แนะนำจากแบรนด์ BLUE BLUE คือ “PP02 Dixie Jeans” กางเกงยีนส์ที่ทำจากผ้าคอตตอน 100% โดยได้รับแรงบันดาลใจจากทรงยีนส์ยุคแรกของอเมริกาตอนใต้ จุดเด่นอยู่ที่การออกแบบให้ทรงกางเกงหลวมและมีเป้าต่ำ
2. WHOOPER
หากคุณกำลังมองหากางเกงยีนส์ญี่ปุ่นที่มีดีไซน์สไตล์ยุโรป แบรนด์ “WHOOPER” คือตัวเลือกที่คุณไม่ควรพลาด! แบรนด์นี้ได้รับการออกแบบโดยดีไซน์เนอร์จากอังกฤษ แต่ใช้ผ้าผลิตในจังหวัดโอคายาม่า
กางเกงยีนส์จาก WHOOPER ถูกออกแบบโดย ” William Kroll” ดีไซน์เนอร์ที่จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัย Central Saint Martins หนึ่งในสถาบันสอนแฟชั่นที่มีชื่อเสียงระดับโลก
รุ่นที่แนะนำจากแบรนด์ WHOOPER คือ “BACKWOODS” ซึ่งมีจุดเด่นอยู่ที่ทรง Tapered ที่สามารถใส่ได้ทั้งเอวสูงและเอวกลาง นอกจากนี้ยังใช้เทคนิคการทอผ้าแบบ “Broken Twill” ซึ่งทำให้ลายผ้ามีความเป็นฟันปลา ช่วยแก้ปัญหาตะเข็บบิดและทำให้เนื้อผ้ามีมิติที่แตกต่างจากการทอผ้าเดนิมทั่วไป
3. RESOLUTE
แบรนด์ RESOLUTE ก่อตั้งขึ้นในปี 2010 โดยมีคุณ Hayashi Yoshiyuki เป็นดีไซน์เนอร์ ซึ่งเขาเคยเป็นผู้ที่ทำให้ Replica Jeans กลายเป็นที่นิยมในช่วงหลังยุค 80
RESOLUTE ผลิตกางเกงยีนส์โดยใช้เทคนิคการย้อมและการทอผ้าแบบดั้งเดิม ผ่านแนวคิดที่ว่า “ต้องการให้กางเกงยีนส์เดนิมนี้เป็นที่ที่ทุกคนอยากจะกลับมาซื้อซ้ำอีกครั้ง” จุดเด่นของแบรนด์นี้คือ การผลิตกางเกงยีนส์เพียง 4 รุ่นเท่านั้น ซึ่งทำให้กางเกงยีนส์ของแบรนด์นี้มีความเรียบง่ายและเหมาะสำหรับการใส่ในชีวิตประจำวัน
กางเกงยีนส์จากแบรนด์ RESOLUTE รุ่นที่แนะนำคือ “710” ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากกางเกงยีนส์ LEVI’S รุ่นปี 1966 ที่ยังคงได้รับความนิยมจากแฟน ๆ ยีนส์จนถึงปัจจุบัน ออกแบบให้เป็นทรงกระบอก ใส่สบาย พร้อมเป้ากางเกงแบบกระดุมและป้ายกระดาษที่ให้ความรู้สึกเหมือนกับกางเกงยีนส์สไตล์ยุคเก่า
4. SERGE de bleu
แบรนด์ SERGE de bleu ก่อตั้งขึ้นในปี 2016 โดยดีไซน์เนอร์ชาวญี่ปุ่น “Mori Mitsuhiro” ที่มีประสบการณ์ทำงานกับแบรนด์เสื้อผ้าชื่อดังหลายแห่ง และเคยทำวิจัยเกี่ยวกับเครื่องแต่งกายในอดีตและปัจจุบันจากทั่วโลก ทำให้ SERGE de bleu มีดีไซน์ที่ทันสมัยและเหมาะกับทุกยุคสมัย
อีกหนึ่งจุดเด่นของแบรนด์ SERGE de bleu คือ การย้อมผ้าด้วยน้ำมันดอกไม้จากธรรมชาติ ซึ่งทำให้กางเกงยีนส์มีสีโทนเหลืองและเนื้อผ้าที่นุ่มลื่น แตกต่างจากผ้ายีนส์เดนิมทั่วไป การออกแบบกางเกงยีนส์ในแบรนด์นี้ยังคงมีกลิ่นอายของสไตล์วินเทจ และใช้เครื่องจักรในการผลิตให้น้อยที่สุด เพื่อให้ได้กางเกงยีนส์ที่มีความละเอียดและประณีต
กางเกงยีนส์จากแบรนด์ SERGE de bleu รุ่นที่แนะนำคือ “DENIM PANTS “BAGGY” ” ซึ่งนำเอากางเกงยีนส์ทรง BAGGY ที่ดูคลาสสิกมาผสมผสานกับเนื้อผ้าแบบ Non Wash Denim สร้างสรรค์เป็นกางเกงยีนส์สไตล์ที่เหมาะกับผู้ใหญ่ในปัจจุบัน
5. HOSU
แบรนด์ HOSU เกิดขึ้นในย่านนากาเมกุโระ กรุงโตเกียว หลังจากยุค 90 คุณ “Suzuki” ตัวแทนบริษัทได้เดินทางไปยังจังหวัดโอคายาม่าเพื่อศึกษาการทำยีนส์ แม้ว่ากางเกงยีนส์ที่ผลิตในประเทศในเวลานั้นจะยังไม่ได้รับความนิยม
การเดินทางของคุณ Suzuki ในครั้งนี้มีเป้าหมายในการผลิตกางเกงยีนส์แบบออริจินอล โดยเขาได้ทดลองตัดเย็บกางเกงยีนส์มากกว่า 20 แบบ หนึ่งในนั้นคือกางเกงยีนส์ผ้ายืด หรือ Stretch Jeans ที่ทอด้วยวิธี Low Tension ซึ่งไม่เป็นที่นิยมในสมัยก่อน และเขายังได้นำเอากางเกงยีนส์ทรงเก่า ๆ ที่ไม่ค่อยมีคนใส่แล้ว มาผลิตใหม่ในโปรเจกต์ “Denim Re-born Project” เพื่อให้คนรักยีนส์ได้ย้อนกลับไปสัมผัสกับกางเกงยีนส์สไตล์เดิมอีกครั้ง
เราขอแนะนำกางเกงยีนส์จากแบรนด์ HOSU รุ่น “332 DENIM PAINTER PANTS” ซึ่งเป็นกางเกงยีนส์ผ้าดิบหนา 16 oz. ทรง Painter Pants ที่ออกแบบให้ขากางเกงหลวมพอดี ไม่คับจนเกินไป จุดเด่นของรุ่นนี้คือ ช่องกระเป๋าด้านหลังและช่อง Hammer Loop ที่ตั้งอยู่บริเวณข้างขากางเกง ซึ่งเพิ่มความเก๋ให้กับการออกแบบ
จะเป็นอย่างไรบ้างกับ 5 แบรนด์กางเกงยีนส์สัญชาติญี่ปุ่นที่เราได้นำเสนอในวันนี้ หวังว่าทุกคนที่รักในกางเกงยีนส์จะพบแบรนด์ที่ถูกใจและเหมาะสมกับตัวเอง และหากใครกำลังมองหาแบรนด์ดี ๆ สักยี่ห้อ ต้องบอกเลยว่าสายแฟชั่นห้ามพลาดอย่างเด็ดขาด!