
คุณเคยสังเกตดูไหมคะว่าทำไมหน้าตาของหนุ่มชาวญี่ปุ่นถึงดูหวานละมุนขนาดนี้? โดยเฉพาะคิ้วที่ได้รับการจัดแต่งอย่างพิถีพิถัน จนบางทีดูสมบูรณ์แบบกว่าผู้หญิงเสียอีก ครั้งแรกที่ผู้เขียนเห็นคิ้วของหนุ่ม ๆ ญี่ปุ่น ก็เกิดความรู้สึก 'เอ๊ะ!' ขึ้นในใจทันที เพราะหากหนุ่มไทยทำคิ้วโก่งแบบนี้ มักจะถูกมองว่าเป็นเกย์ไปเลย
วันนี้ ANNGLE จะพาทุกคนไปหาคำตอบว่า ทำไมคิ้วของหนุ่มญี่ปุ่นถึงได้เป๊ะขนาดนี้ พร้อมกับทฤษฎีต่าง ๆ ที่อธิบายปรากฏการณ์นี้ค่ะ
ทฤษฎีที่ 1: กิจวัตรการแต่งกายที่เข้มงวด ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของประเพณีญี่ปุ่นมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่สมัยเฮอัน
ทฤษฎีนี้ชี้ให้เห็นว่า การแต่งทรงคิ้วของหนุ่มญี่ปุ่นนั้นไม่ได้เป็นแค่เทรนด์ใหม่ แต่มีประวัติศาสตร์ยาวนานมาหลายศตวรรษ โดยเฉพาะในศตวรรษที่ 18 หรือปลายสมัยเฮอัน ชนชั้นสูงในสมัยนั้นจะโกนคิ้วแล้วทาสีทับเพื่อให้ใบหน้าดูสมดุลและกว้างขึ้น
นอกจากนี้ไม่เพียงแค่คิ้วของผู้ชายเท่านั้น แต่การลบคิ้วธรรมชาติแล้ววาดคิ้วใหม่ก็เป็นที่นิยมของผู้หญิงในสมัยเฮอันด้วย การวาดคิ้วแบบนี้เรียกว่า 'ฮิคิมายุ' (引眉) ซึ่งมาจากคันจิ 2 ตัว คือ 引 (ฮิคิ) ที่แปลว่า ดึง และ 眉 (มายุ) ที่แปลว่า คิ้ว ชนชั้นสูงในสมัยนั้นจะถอนขนคิ้วแล้วทาคิ้วใหม่ด้วยผงหมึกที่เรียกว่า 'ไฮซุมิ' ทำจากเขม่าผสมกับน้ำมันงาหรือน้ำมันดอกคาโนล่า ซึ่งต่างจากความเชื่อในจีนและเกาหลีที่เชื่อว่าคิ้วหนาเป็นสัญลักษณ์แห่งความมั่งคั่ง
ทฤษฎีที่ 2: การกันคิ้วเพื่อให้ใบหน้าดูอ่อนหวานและดูเป็นเด็กน่ารัก
เคยเดินไปที่แผนกสินค้าเสริมความงามในญี่ปุ่นกันไหมคะ? ถ้าเคย คุณจะเห็นอุปกรณ์แต่งตัวและเครื่องมือเสริมหล่อสำหรับผู้ชายญี่ปุ่นที่มีความหลากหลายไม่แพ้ของผู้หญิงเลย ไม่ว่าจะเป็นเครื่องมือจัดแต่งคิ้ว ย้อมสีคิ้ว เทปทำตาสองชั้นสำหรับผู้ชาย หรือแม้กระทั่งมาสคาร่าสำหรับผู้ชายก็มีเช่นกันค่ะ
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรมความงามของผู้ชายญี่ปุ่นได้เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยหนุ่ม ๆ ญี่ปุ่นทั่วไปมองว่าเป็นเรื่องปกติที่ผู้ชายจะใส่ใจในเรื่องความงามของผิวพรรณและเส้นผมเหมือนกับผู้หญิง และขนคิ้วก็ไม่ใช่ส่วนที่จะมองข้ามหรือไม่ใส่ใจเช่นกัน
ตัวอย่างของดาราชายที่คิ้วเป๊ะและเป็นที่รู้จักคงจะหนีไม่พ้นจิน อากานิชิ หรือ ซาโต้ ทาเครุ สองหนุ่มนักแสดงชื่อดังที่เป็นที่คุ้นหน้าคุ้นตาของคนญี่ปุ่น ที่มักจะปรากฏตัวพร้อมกับทรงคิ้วที่สมบูรณ์แบบ จนกลายเป็นภาพจำว่าเป็น บิโชเน็น (美少年) หรือพริตตี้บอยนั่นเอง
สำหรับบางคนที่เลือกตัดแต่งคิ้วให้บางลง เป็นเพราะหนุ่ม ๆ วัยรุ่นหลายคนทำสีผม ซึ่งคิ้วที่ดกดำอาจจะขัดกับสีผมที่สว่าง จึงต้องตัดแต่งคิ้วให้บางลงและทำสีให้เข้ากับสีผม เพื่อให้ดูสมดุลมากขึ้น
ทฤษฎีที่ 3: การกันคิ้วเพื่อเพิ่มเสน่ห์ให้กับเพศตรงข้าม
สาวญี่ปุ่นนั้นขึ้นชื่อเรื่องการดูแลตัวเองอย่างพิถีพิถัน โดยเฉพาะการแต่งหน้าและการแต่งตัว แม้กระทั่งการทิ้งขยะหน้าบ้านก็ยังต้องแต่งหน้าออกไป เพราะการไปพบใครโดยไม่แต่งหน้า ถือว่าเสียมารยาทอย่างมาก บางธุรกิจที่ต้องการพนักงานที่มีบุคลิกดี ยังมีคอร์สสอนแต่งหน้าให้พนักงานเลยทีเดียว
เมื่อพวกเธอใส่ใจในการดูแลตัวเอง ผู้ชายที่จะเดินเคียงข้างพวกเธอก็ควรจะดูดีไม่แพ้กัน เพราะการสร้างความประทับใจครั้งแรกในช่วง 20 วินาทีแรกนั้นสำคัญมาก เมื่อไปเดทกับหนุ่มในครั้งแรก เราไม่สามารถรู้ได้ว่าเขาจะมีนิสัยใจคอดีแค่ไหน หรือการงานและการเงินเป็นอย่างไร ดังนั้นรูปลักษณ์ภายนอกก็เป็นสิ่งที่สาวญี่ปุ่นให้ความสำคัญในการประเมินคนที่จะไปเดทด้วย และสิ่งที่สาว ๆ ใช้ในการประเมินการดูแลสุขอนามัยของผู้ชายก็คือ “ขนคิ้ว” ถ้าคิ้วไม่ได้รับการจัดแต่งให้เรียบร้อย ก็อาจถูกมองว่าไม่สนใจตัวเอง และอาจจะไม่ได้ตั้งใจที่จะออกมาเจอ เพราะงานที่เขาทำน่าจะยุ่งจนไม่มีเวลามาเจอเราได้
สามีของผู้เขียนทำงานในแวดวงการแพทย์ และถ้าเขาไม่ได้ไปที่ร้านตัดผม (ซึ่งในญี่ปุ่นร้านตัดผมชายมักมีบริการกันคิ้วและกันจอนให้เรียบร้อย) คิ้วของเขาก็จะดูรกและไม่ได้รับการจัดแต่งเหมือนหนุ่มญี่ปุ่นทั่วไป เพื่อนร่วมงานของเขาก็มีลักษณะทรงคิ้วและทรงผมที่ไม่ค่อยสะดุดตาเหมือนหนุ่ม ๆ ที่เจอบนรถไฟเลย และจากผลสำรวจบางชิ้นในญี่ปุ่นบอกว่า อาชีพแพทย์หรือนักบินมักไม่ได้รับความสนใจจากสาว ๆ เพราะพวกเขามักไม่มีเวลา แต่บางบริษัทหาคู่กลับบอกว่า สาว ๆ กลับอยากออกเดทกับหนุ่ม ๆ ในสายการแพทย์หรือทนายความมากที่สุด ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน แต่ตอนที่ผู้เขียนเจอกับสามีก็ไม่ได้มองไปที่คิ้วแบบสาวญี่ปุ่นนะ
ผู้เชี่ยวชาญด้านบุคคลิกภาพบอกว่า การจัดทรงคิ้วให้ดูบางและเรียวจะทำให้หนุ่ม ๆ ดูอ่อนโยนและลดความก้าวร้าวลง อีกทั้งยังทำให้ดูเป็นคนที่เข้าถึงง่าย หนุ่ม ๆ ที่ทำงานในแวดวงการขาย การบริการลูกค้า หรือธนาคารมักจะมีคิ้วที่จัดทรงเป๊ะปัง ในขณะที่ผู้บริหารระดับสูงที่มักจะมีภาพปรากฏในเว็บไซต์บริษัทหรือบิลบอร์ดขนาดใหญ่ มักจะมีคิ้วหนาและเข้ม เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือขององค์กร
เมโทรเซ็กชวลและการเติบโตของผลิตภัณฑ์เสริมความงามสำหรับเพศชาย
คำว่า 'เมโทรเซ็กชวล' (Metrosexual) มาจากคำว่า 'Metropolitan' และ 'Sexual' ซึ่งหมายถึงผู้ชายที่รักสวยรักงามและใส่ใจดูแลรูปลักษณ์ของตัวเองมากกว่าผู้ชายทั่วไป และเนื่องจากหลายคนยังสับสนระหว่างคำว่า 'Metrosexual' และ 'Homosexual' จึงมักเข้าใจผิดว่าผู้ชายที่รักสวยรักงามเหล่านี้เป็นกลุ่มรักร่วมเพศ แต่จริง ๆ แล้ว ผู้ชายประเภทนี้ยังหลงใหลในเพศตรงข้าม คำนี้เริ่มถูกใช้ในปี 1994 โดยนักเขียนชาวอังกฤษชื่อมาร์ก ซิมสัน เพื่อนิยามผู้ชายที่ใช้เวลาและเงินจำนวนมากไปกับการดูแลรูปลักษณ์ของตัวเอง
จากบทความของ The Japan Times เรื่อง “Young Japanese men’s trend: Trying to look pretty” ที่ตีพิมพ์ในเดือนมิถุนายนปี 2012 ได้ระบุว่า ความต้องการในผลิตภัณฑ์เสริมความงามและเครื่องแต่งกายสำหรับผู้ชายในญี่ปุ่นได้เพิ่มขึ้นอย่างมากในศตวรรษที่ 21 เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงในทัศนคติของสังคมที่เชื่อว่าผู้ชายที่ใส่ใจดูแลตัวเองจะเป็นผู้ชายที่ดู ‘เท่ห์’
กล่าวง่าย ๆ ก็คือ ผู้ชายญี่ปุ่นเริ่มกลายเป็นผู้ชายในสไตล์เมโทรเซ็กชวลมากขึ้นทุกวัน จึงไม่น่าแปลกใจที่หลายบริษัทในญี่ปุ่นจะออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ โดยเฉพาะมุ่งไปที่ผู้ชาย เช่น มาส์กกระชับใบหน้าสำหรับผู้ชาย โฟมล้างหน้าที่เหมาะสำหรับผู้ชายที่มีปัญหาหน้ามันและรูขุมขนกว้าง รวมถึงเครื่องตัดแต่งขนจมูกไฟฟ้า
รู้แบบนี้แล้ว หากเจอหนุ่มญี่ปุ่นคนไหนในครั้งหน้า ก็ไม่ต้องแปลกใจที่คิ้วของเขาดูเรียบร้อย เพราะหนุ่ม ๆ ญี่ปุ่นรู้จักการดูแลตัวเองดีมาก ๆ ค่ะ
สรุปเนื้อหาจาก: livedoor
ผู้เขียน: A Housewife Wannabe