ดีเจอาร์ต-มารุต ชื่นชมบูรณ์ และ แยม-ดาราวรรณ โกวิทยะวงศ์ คู่รักที่มีความสัมพันธ์ยาวนาน 13 ปี ก่อนที่ดีเจอาร์ตจะขอแต่งงานกับแฟนสาวนอกวงการ และนี่คือเรื่องราวความรักที่เติบโตไปพร้อมกับกันมาตั้งแต่สมัยวัยรุ่นจนถึงวันนี้

อาร์ต : เมื่อ 13 ปีที่แล้ว สมัยที่เซ็นเตอร์พ้อยท์สยามสแควร์กำลังเป็นที่นิยม พี่อ้น-ศรีพรรณ (พี่สาวของอาร์ต) จัดงานเปิดตัวหนังสือที่นั่น ขณะนั้นผมเรียนม.6 ที่โรงเรียนวชิราวุธวิทยาลัย แต่ไปช่วยถ่ายรูปแล้วบังเอิญเห็นแยม จึงบอกเพื่อนชื่อขวัญให้ไปขอเบอร์โทรศัพท์ให้หน่อย โดยให้โทรศัพท์ของผมไปให้ขวัญกดเบอร์ให้ เมื่อขวัญกลับมาแล้วยื่นโทรศัพท์คืน ผมคิดว่าไม่น่าจะได้เบอร์แล้วแน่ๆ
แยม : แยมเรียนม.4 ที่โรงเรียนสตรีศรีสุริโยทัยแถวบางรัก วันนั้นแยมไปเรียนพิเศษแถวเซ็นเตอร์พ้อยท์ และเพราะแยมชอบพี่อ้นเลยไปดูงานที่จัดขึ้นที่นั่น โดยเพื่อนรู้จักพี่โจ้-อัครพล พิธีกรของงาน แยมกับเพื่อนกำลังรอเจอพี่โจ้ แล้วพี่อาร์ตก็เดินเข้ามาขอถ่ายรูปพี่โจ้ และเนียนๆ ขอให้แยมกับเพื่อนถ่ายรูปด้วย ตอนนั้นพี่ขวัญมาขอเบอร์ แยมให้เบอร์บ้านไปเพราะยังไม่มีมือถือ และคิดว่าไม่น่าจะเป็นอะไร
อาร์ต : เช้าวันถัดมา ขวัญโทรมาหาผมถามว่าโทรหาน้องแยมรึยัง ผมตกใจมาก เพราะไม่รู้ว่าเมื่อวานขวัญได้เบอร์มาแล้วทำไมไม่บอก เพราะมือถือสมัยนั้นแสดงเพียงแค่ 20 เบอร์ล่าสุดที่โทรเข้าและออกแล้วก็จะลบไปอัตโนมัติ ผมรีบตรวจสอบแล้วพบว่าเบอร์แยมติดอยู่ในลำดับที่ 20 ถ้ามีใครโทรเข้าหรือผมโทรออกอีกครั้ง เบอร์แยมจะหายไปเลย เมื่อรู้เบอร์แล้วก็รีบโทรไปทันที และคนที่รับสายคือแม่แยม ผมเลยบอกว่าจะโทรกลับไปใหม่ตอนเย็น หลังจากนั้นเราก็คุยกันจนเจอกันบ่อยขึ้น ตอนนั้นผมอยู่โรงเรียนประจำ สองอาทิตย์ถึงจะออกมาได้ เราก็นัดเจอกันไปกินข้าวแล้วผมก็กลับบ้าน

เดทแรก @ สยามเซ็นเตอร์
อาร์ต : หลังจากคุยกันไปสักพัก ผมก็ออกจากโรงเรียนมาแล้ว นัดแยมเจอกันครั้งแรก ผมบอกให้แยมพาเพื่อนมาด้วยเพื่อจะได้รู้สึกสบายใจ
แยม : แยมชวนเพื่อนไปเยอะเลย เพราะยังอายอยู่ เรานัดไปกินที่ร้านโอลด์ดี้ สยามเซ็นเตอร์ ซึ่งกลายเป็นร้านที่ไปบ่อยจนเป็นที่ชอบของเรา
อาร์ต : ผ่านไป 10 กว่าปี ทุกครั้งที่เราไปกินที่ร้านนี้ เขายังจำเราได้ และถามด้วยว่าทั้งสองยังคบกันอยู่หรือไม่ (หัวเราะ)
แยม : พี่อาร์ตเป็นคนตลกและคุยสนุกมาก เมื่อก่อนเขาเท่มาก เป็นนักรักบี้ หุ่นดี ใส่เสื้อเชิ้ต กางเกงสแล็ก แต่ตอนนี้เปลี่ยนไปเยอะเลย (หัวเราะ)
อาร์ต : ตอนนั้นน้ำหนักผม 75 กิโลกรัม ตอนนี้ 95 ครับ (หัวเราะ) เราเริ่มเจอกันบ่อยขึ้น ทุกๆ สองอาทิตย์จะนัดไปกินข้าวกัน แต่มีเรื่องขำๆ คือพอเรานัดกินข้าวกัน เราทั้งคู่ต่างคนต่างบอกว่าไม่หิว กินแค่นิดหน่อยเพราะเขินกัน แต่พอกลับบ้านผมโทรหาน้องแยมถามว่าอยู่ไหน แยมบอกว่ากินข้าวแล้ว ส่วนผมก็ทานข้าวเหมือนกัน พอแม่ผมถามว่าออกไปข้างนอกทำไมกลับมาหิวขนาดนี้ ผมก็หัวเราะตอบไม่ได้ (หัวเราะ) เราก็เขินกันอยู่แบบนี้เป็นปี ทุกครั้งที่นัดกันเพื่อนแยมจะไปด้วยไม่เคยเจอกันสองต่อสอง ต้องบอกเลยว่าผมไม่กล้าบุ่มบ่าม เลยต้องใช้ความดีในการเอาชนะใจเขา

สองคนสองขั้ว
อาร์ต : ที่บ้านแยม พ่อแม่ค่อนข้างเข้มงวด สมัยเรียนเวลา 5 ทุ่มต้องกลับบ้านแล้ว ทุกวันนี้ก็ยังเป็นเหมือนเดิม ล่าสุดคือสี่ทุ่ม พอคบกัน 10 ปีถึงจะไปส่งกลับได้บ้างแต่ก็ไม่ใช่ทุกครั้งจริงๆ เราเลยไม่ได้ปรับเปลี่ยนอะไรเหมือนคู่รักทั่วไปที่คบกันแล้วอยู่ด้วยกัน
แยม : พี่อาร์ตมักจะตื่นสายค่ะ พอตกเย็นเขาก็ออกไปเที่ยวกับเพื่อนแล้วกลับดึก แยมหงุดหงิดเพราะไม่ได้ไปด้วย ต้องกลับบ้านเร็วเลยเคยบ่นพี่อาร์ตทำไมไม่ตื่นเช้าแล้วไปเที่ยวกับเพื่อนให้เสร็จ เราจะได้ไปเที่ยวด้วยกัน
อาร์ต : กว่าจะเลิกงานก็เกือบตีสอง จะให้ตื่นเช้าคงทำไม่ได้จริงๆ

ผู้หญิงจากดาววีนัส
อาร์ต : ผู้หญิงมักจะมีอารมณ์งอนที่เราไม่เข้าใจ บางทีโกรธโดยที่ไม่บอกเหตุผล แยมจะบอกว่าให้ไปหาเอาเองว่าเธอโกรธอะไร
อาร์ต : อีกเรื่องคือเวลาแยมโทรมาบอกเล่าเรื่องที่กำลังเกิดขึ้น บางครั้งผมกำลังขับรถอยู่ แยมจะบอกว่าเดี๋ยวก่อน แต่ผมบอกว่าไม่ได้ เขาจะบอกว่าอย่าวางสาย ต้องคุยให้จบก่อน แล้วพูดจบก็จะบอกว่าแค่นี้แล้วก็วางสายไป หรือบางทีช่วงที่แยมมีอาการทางร่างกาย เช่นช่วงเมนส์ เธอจะบอกว่าอารมณ์ไม่ดี แล้วผมต้องคอยรองรับอารมณ์นั้นทุกเดือน เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นทุกคู่ บางเรื่องผู้ชายไม่เข้าใจ แต่ก็ต้องพยายามทำความเข้าใจ
แยม : บางครั้งเขาก็ไม่ได้ขับรถหรอก แต่กำลังเล่นเกมหรือดูทีวีแล้วไม่ฟัง บางทีแยมจะลองแกล้งทดสอบว่าเขาฟังอยู่ไหม โดยการถามว่าเมื่อกี้แยมพูดอะไรไป
อาร์ต : ต้องจับผิดกันตลอด ให้ส่งรายงานไปเลย
แยม : ทุกครั้งที่เขาทำอะไรผิด เขาจะบอกให้เขียนรายงานแล้วเย็บเล่มส่งให้ (หัวเราะ)

ขอบคุณที่รักกัน
แยม : ที่ตัดสินใจแต่งงานกับพี่อาร์ต เพราะเขาคือคนที่รักครอบครัวมาก เวลาพูดถึงพ่อแม่เขามักจะน้ำตาคลอ และเป็นคนเซ็นซิทีฟ แยมคิดว่าเมื่อเขารักครอบครัวของเขา แล้วเราก็จะเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเขา เขาจะรักเราและครอบครัวเราเช่นเดียวกัน
อาร์ต : ตลอดระยะเวลาที่เราคบกันจนถึงวันที่แต่งงาน เรามีข้อดีข้อเสียที่ยอมรับซึ่งกันและกัน ผมเป็นคนอารมณ์ร้อน พอผมโกรธ แยมก็จะช่วยให้ผมเย็นลง หรือเวลาแยมหงุดหงิด เธอก็จะระบายกับผม ผมก็รับฟังและยอมรับมัน ความสัมพันธ์เรามันพอดีทุกอย่าง ทั้งเรื่องการทำงานและการใช้ชีวิต เราผสมผสานกันได้ดี เวลาผมแนะนำอะไร แยมจะรับฟังและถ้ามีปัญหาผมก็จะขอคำแนะนำจากเธอและได้คำตอบดีๆ กลับมาเสมอครับ
ผมอยากขอบคุณแยมที่ดูแลทุกอย่างในชีวิตของผมมาโดยตลอด ทั้งงานบ้าน หรือเอกสารสำคัญต่างๆ แยมจัดการทั้งหมด ร้าน Mushroom ก็เป็นอีกหนึ่งที่แยมดูแลเอง ผมมีหน้าที่ไปทำงานส่วนที่เหลือแยมทำให้หมด แต่พออยากได้กระเป๋าแบรนด์เนมที่อยากได้บ้าง ต้องให้แยมซื้อให้ (หัวเราะ) ขอบคุณมากที่ดูแลผมดีมาตลอด และหวังว่าเราจะดูแลกันต่อไปแบบนี้นะ
แยม : ขอบคุณที่ดูแลและเอาใจใส่ ขอบคุณที่เวลาแยมหงุดหงิด เขาก็ยอมให้แยมระบายอารมณ์ออกมา หรือเวลาแยมหาแนวทางแก้ปัญหาก็สามารถปรึกษาเขาได้ทุกเรื่อง และเขาก็ให้กำลังใจมาอย่างดีตลอดค่ะ