โดยคุณมาดามัวเซลล์
คำว่า ‘หมอแซ่บต้องบอกต่อ หมอหล่อห่อให้ด้วย’ กลายเป็นแฮชแท็กที่ได้รับความนิยมในโซเชียล โดยคนส่วนใหญ่ยกย่องคุณหมอที่ทั้งหล่อและเก่ง หนึ่งในนั้นคือ ‘คุณหมอเอ้ก-นพ.คณวัฒน์ จันทรลาวัณย์’ ที่เคยมีบทบาทในวงการบันเทิง และเคยติดอันดับ 10 คุณหมอที่หล่อที่สุดในไทย

วันนี้ ChicMinistry จะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับตัวตนและพูดคุยกับคุณหมอในแง่มุมที่หลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อน
จักษุแพทย์ที่ใครๆ ก็ต้องหลงรัก
“ไม่เลยครับ (หัวเราะ) ตอนนี้ผมกำลังศึกษาเฉพาะทางด้านจักษุวิทยา ที่โรงพยาบาลจุฬาฯ ระยะเวลา 3 ปี ระหว่างการเรียนผมต้องออกตรวจคนไข้ทุกวัน รวมถึงงานวิจัยและโปรเจ็คต่างๆ ที่ยังไม่ได้เผยแพร่ งานทั้งหมดต้องใช้ความทุ่มเทและความรับผิดชอบสูง ถึงแม้ว่าจะเหนื่อย แต่การได้ทำหน้าที่จักษุแพทย์และทำตามความฝันไปพร้อมกัน ทำให้ผมภูมิใจมากครับ”
ก่อนที่จะเป็นคุณหมอ
“หากย้อนกลับไปในช่วงมัธยมปีที่ 4 ผมได้รับทุนการศึกษาจากโครงการนักเรียนทุนแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมไทย-อเมริกัน ไปศึกษาที่โรงเรียนมัธยม Wewahitchka ในรัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา การไปต่างประเทศครั้งนี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิต หลังจากนั้นผมได้มีโอกาสใกล้ชิดกับแพทย์ที่นั่นและรู้สึกชอบ จึงเป็นแรงผลักดันให้ผมตัดสินใจเรียนหมอและสอบเข้าแพทย์ศาสตร์ที่จุฬาฯ ครับ”
ชีวิตที่ไม่ธรรมดาและการเข้าสู่วงการบันเทิงโดยไม่คาดคิด
“ผมโชคดีมากครับที่ได้รับโอกาสดีๆ ตอนที่ยังเป็นนักศึกษาแพทย์ ปี 1 ผมได้ลองถ่ายโฆษณา ถ่ายแบบ และเล่นมิวสิกวิดีโอ ซึ่งหลายคนอาจเคยเห็นผมในโฆษณาหลายตัว พอได้ลองทำก็พบว่าเงินดี แต่กลับไม่รู้สึกชอบ และไม่สนใจทางนี้เลย ถ้าหากเลือกเดินทางสายบันเทิงเต็มตัว คงไม่ประสบความสำเร็จ (หัวเราะ) เพราะมันไม่ใช่ตัวตนของผม ผมเป็นคนที่ชอบการพูดคุยเรื่องวิชาการ การเมือง และสุขภาพมากกว่า การค้นหาความรู้ใหม่ๆ และการวิเคราะห์ทำให้ผมสนุกและอยากเรียนรู้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น”

ชีวิตหมอที่เต็มไปด้วยประสบการณ์ ไม่เคยลืมการเดินทางไปต่างแดน
“ครั้งหนึ่งผมได้รับพระราชทานทุนโครงการเยาวชนรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล และได้เดินทางไปยังโรงพยาบาลแมสซาชูเซตส์ เจเนอรัล ในเมืองบอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นโรงพยาบาลในเครือฮาร์เวิร์ด เมดิคอล สคูล การเดินทางครั้งนี้ถือเป็นประสบการณ์ที่สำคัญในชีวิต นอกจากได้เรียนรู้การทำงานในระดับสากลแล้ว ยังได้รับโอกาสร่วมงานกับมูลนิธิ Pink Ribbon Red Ribbon เพื่อเผยแพร่วัคซีน HPV สำหรับป้องกันมะเร็งปากมดลูกในประเทศแซมเบีย การเดินทางครั้งนี้เป็นการท้าทายทั้งความรู้และทักษะของผมอย่างมาก จำได้ว่าได้สาธิตวิธีการใช้วัคซีนและสื่อสารกับทีมแพทย์ในพื้นที่ รวมทั้งเรียนรู้จากเพื่อนร่วมงานที่เก่งระดับโลก ทุกครั้งที่นึกถึงประสบการณ์นี้ยังคงประทับใจไม่เคยลืมครับ”
เตรียมรับมือกับ AEC ในฐานะหมอ
“สำหรับการพัฒนาในแวดวงการแพทย์ ประเทศสิงคโปร์ถือเป็นต้นแบบที่ชัดเจน ด้วยศักยภาพของบุคลากร เทคโนโลยี และเครื่องมือที่ทันสมัย หากยังจำกันได้ เคยมีกรณีฝาแฝดชาวอิหร่านที่รัฐบาลสิงคโปร์เชิญไปรักษา ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสามารถด้านการแพทย์ของประเทศเขา ซึ่งแตกต่างจากประเทศไทยที่ยังตามหลังอย่างมาก หาก AEC เปิดขึ้น สิ่งที่เราต้องพัฒนาอย่างเร่งด่วนคือ ความสามารถของบุคลากร เครื่องมือ และนวัตกรรมใหม่ๆ รวมถึงแหล่งทุนที่เพียงพอให้กับผู้ที่เกี่ยวข้องในภาคสุขภาพ เพื่อพัฒนาองค์ความรู้ใหม่ๆ และผลิตนวัตกรรมทางการแพทย์ แต่ตอนนี้เรายังมีทุนที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการ อีกทั้งเมื่อ AEC เปิด อาจส่งผลให้เกิดการเคลื่อนย้ายบุคลากรทางการแพทย์อย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจทำให้การจัดการกลายเป็นเรื่องที่ท้าทายครับ”

เสน่ห์ของการเป็นจักษุแพทย์
“เสน่ห์ของการเป็นจักษุแพทย์อยู่ที่ความท้าทายครับ (หัวเราะ) การต้องใช้ความละเอียดรอบคอบและใส่ใจในทุกขั้นตอน ตอนที่ผมตัดสินใจเลือกเรียนด้านจักษุแพทย์ หรือโรคติดเชื้อ ผมรู้สึกว่าอยากทำในสิ่งที่ทั้งท้าทายและมีความประณีตเหมือนงานศิลปะ โดยเฉพาะในด้านของการรักษาสายตาที่เป็นจุดที่ละเอียดอ่อนที่สุด ผมถือว่าตัวเองเป็นคนที่ชอบความสมบูรณ์แบบ (perfectionist) และด้วยลักษณะนิสัยนี้ ผมเชื่อว่าเส้นทางการเป็นหมอตาที่ผมเลือกมานั้น เหมาะกับตัวผมมากที่สุดครับ”
ไลฟ์สไตล์ในวันที่ไม่ได้ทำหน้าที่หมอ
“ช่วงนี้ผมอยากมีเวลาหยุดพักผ่อนและนอนเต็มที่สัก 6-8 ชั่วโมงครับ แต่การเป็นหมอทำให้ยากมาก เพราะงานที่ต้องทำทั้งในและนอกโรงพยาบาลนั้นเยอะมาก ทำแทบไม่ทัน ในช่วงนี้ผมไม่ได้ออกกำลังกาย ไม่ว่าจะเป็นการไปยิมหรือว่ายน้ำมานานเกือบ 5 เดือนแล้วครับ ซึ่งไม่ใช่ตัวอย่างที่ดีที่ใครควรทำตาม (ยิ้ม) แต่ผมพยายามดูแลสุขภาพด้วยการเลือกทานอาหารที่ดีและมีประโยชน์ งดอาหารที่ทำให้เกิดโรค อย่างพวกฟาสต์ฟู้ด ถ้าเมื่อไหร่มีเวลาลงตัว ผมจะกลับมาออกกำลังกายเป็นอันดับแรกครับ”

หากพูดถึงคุณหมอเอ้กในมุมที่ไม่มีใครรู้ จะตอบว่ายังไง
“ผมเป็นคนที่มีสองบุคลิกครับ ถ้าคนที่เพิ่งรู้จักผมอาจมองว่าผมเป็นคนเรียบง่าย สบายๆ แต่ในอีกมุมหนึ่งที่หลายคนอาจไม่รู้คือ ผมมีเป้าหมายและแผนการใช้ชีวิตที่ชัดเจน ถ้าเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับเป้าหมายของผม ผมจะไม่ปล่อยให้มันผ่านไปง่ายๆ ทั้งในเรื่องงานและชีวิตส่วนตัว ผมว่าอาจเป็นลักษณะของบุคลิกที่เหมาะสมกับการเป็นหมอครับ (หัวเราะ)”
“เพราะเมื่อเราทำให้ความใส่ใจในทุกเรื่องในชีวิตของตัวเอง รวมถึงชีวิตของผู้คนที่อยู่ในความดูแลของเรา เราก็ต้องเต็มที่ในทุกๆ การดูแล รักษา และใส่ใจอย่างดีที่สุด ไม่ปล่อยให้มันหลุดมือไปง่ายๆ จริงไหมครับ”
Photo: Ben Vitoosuwan