ในยุคปัจจุบันที่เบียร์มีความหลากหลายมากขึ้น จากแบรนด์ที่คุ้นเคยเพียงไม่กี่เจ้า จนกลายเป็นมีตัวเลือกมากมายทั้งเบียร์นำเข้าและคราฟต์เบียร์จากหลากหลายชนิด
ดังนั้น สิ่งสำคัญที่คุณควรรู้คือเบียร์มีหลายประเภทและแต่ละประเภทก็มีลักษณะเฉพาะตัว เพื่อที่คุณจะได้เข้าใจมากขึ้นเมื่อเลือกซื้อเบียร์จากซุปเปอร์มาร์เก็ตหรืออ่านเมนูเบียร์ในร้าน เมื่อคุณเลือกสั่งเบียร์แต่ละชนิด คุณจะรู้ว่าจะได้รสชาติ กลิ่น สี และระดับแอลกอฮอล์ที่เป็นเอกลักษณ์ตามประเภทนั้นๆ ดังนั้น 5 ประเภทของเบียร์ที่ควรรู้จักมีดังนี้
IPA
ย่อมาจาก India Pale Ale เป็นเบียร์ที่มีการใช้ฮ็อพในปริมาณมากกว่าพลเอล เน้นรสชาติขมและกลิ่นที่ดึงดูดความสนใจ เบียร์ชนิดนี้มีที่มาจากอังกฤษที่เคยส่งเบียร์เพลเอลไปยังอินเดียในช่วงที่อินเดียยังเป็นอาณานิคมของอังกฤษ แต่เนื่องจากการขนส่งทางเรือทำให้เบียร์เสียเร็ว เนื่องจากในยุคนั้นยังไม่มีการพาสเจอร์ไรซ์ ผู้คนในสมัยนั้นจึงค้นพบว่าหากเพิ่มแอลกอฮอล์และใส่ดอกฮ็อพลงไป เบียร์จะมีอายุการเก็บที่ยาวนานขึ้นและสามารถต้านแบคทีเรียได้ เมื่อเบียร์เหล่านี้ไปถึงอินเดียก็ยังคงคุณภาพดีและมีรสชาติที่ดีขึ้น จึงกลายเป็นเบียร์ที่ได้รับความนิยมและถูกเรียกว่า India Pale Ale
ตัวอย่างเบียร์ที่ได้รับความนิยม: Lagunitas IPA, Harpoon IPA, Brew Dog Punk IPA, Fuller’s IPA, Anderson Valley Hop Ottin IPA

PILSNER
เป็นเบียร์ที่มีความนิยมและถูกผลิตมากที่สุดทั่วโลก มีรสชาติที่อ่อนโยนและหวานน้อย สีเหลืองทอง ดื่มแล้วรู้สึกสดชื่น โดยคำว่า Pilsner มีต้นกำเนิดจากเมือง Pilsen ในสาธารณรัฐเชค ซึ่งเริ่มผลิตเบียร์ประเภทนี้มาตั้งแต่ช่วงปี 1800 โดยมีแอลกอฮอล์อยู่ที่ประมาณ 3.2-4.5 ดีกรี และมักจะเสิร์ฟที่อุณหภูมิระหว่าง 4-7 องศาเซลเซียส
ตัวเลือกที่ได้รับความนิยม: Pilsner Urquell

Porter
เป็นเบียร์สีเข้มแต่ไม่ถึงกับสีดำสนิท มีรสขมคลุกเคล้ากับรสหวานเล็กน้อย และมีกลิ่นหอมของมอลต์เป็นจุดเด่น ซึ่งมีต้นกำเนิดจากอังกฤษในคริสต์ศตวรรษที่ 18 โดยในกรุงลอนดอนนิยมผสมเอลเบียร์กับเบียร์ twopenny (เบียร์ที่มีแอลกอฮอล์สูง) ในอัตราส่วนที่เท่ากัน ผู้ผลิตชื่อ "ฮาร์วูด" ได้เรียกเครื่องดื่มนี้ว่า "Entire" ในปี ค.ศ. 1720 ก่อนที่เครื่องดื่มนี้จะได้รับความนิยมและถูกเรียกในภายหลังว่า "พอร์ทเทอร์"
ตัวเลือกที่ได้รับความนิยม: Stone Smoked Porter, Founder’s Porter
Stout
คือเบียร์สีดำที่เข้มข้นที่สุดทั้งในด้านสีและรสชาติ เนื่องจากใช้ข้าวมอล์ตที่คั่วจนเข้ม นิยมดื่มในอังกฤษและไอร์แลนด์ มีรสขมฝาดและความเข้มข้นสูง พร้อมทั้งแอลกอฮอล์ที่สูง
คำว่า "สเตาท์ (Stout)" เริ่มใช้ครั้งแรกในชื่อ "สเตาท์-พอร์ทเทอร์ (Stout-Porter)" ที่ผลิตโดยบริษัทกินเนสในไอร์แลนด์เมื่อปี ค.ศ. 1820 โดยสเตาท์มีสีเข้มกว่าพอร์ทเทอร์เนื่องจากการใช้มอล์ตคั่วมากกว่า (บางครั้งความแตกต่างระหว่างสเตาท์และพอร์ทเทอร์อาจจะยากที่จะเห็นถ้าไม่ดูจากป้ายฉลาก)
ตัวเลือกที่ได้รับความนิยม: Guinness, Anderson Valley Barney Flats Oatmeal Stout, Murphy’s Irish Stout, Hitachino Nest Espresso Stout

Witbier
วีทเบียร์คือเบียร์ที่ทำจากข้าวสาลี ซึ่งคำว่า "Wit" มาจากภาษาเบลเยียมที่หมายถึง "ขาว" ขณะที่ในภาษาเยอรมันเรียกว่า Weizen หรือไวเซน ซึ่งหมายถึง "ข้าวสาลี" โดยคอนเซ็ปต์หลักคือการใช้ข้าวสาลีในการผลิตเบียร์ หากนำข้าวสาลีไปคั่วจะได้ชื่อว่า Dunkel Weizen หรือดุงเคล ไวเซน ซึ่งเพิ่มคำว่าดำเข้ามา
ตัวเลือกที่ได้รับความนิยม: Hoegaarden Original White Ale, Paulaner, Erdinger, Weihenstephaner, Schneider