วันนี้ Mytour! Men ขอนำเสนอข้อมูลจากกระทู้รีวิวการศัลยกรรมทั้งหน้า โดยคุณปาล์ม ที่ได้แบ่งปันประสบการณ์การทำศัลยกรรมให้กับหนุ่มๆ ที่สนใจ ลองตามไปอ่านกันดูครับ
ก่อนอื่นต้องขอออกตัวว่า นี่คือรีวิวครั้งแรกในชีวิต อาจจะมีทั้งข้อผิดพลาดและข้อถูกต้องบ้าง แต่หนึ่งในจุดประสงค์ที่เขียนก็เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้ที่เคยถูกปฏิเสธ จนรู้สึกท้อและไม่กล้าชอบใครอีกครั้ง



จนวันหนึ่งมีรุ่นน้องแนะนำว่าเคยลองลอกผิวมั้ย ลองเข้าไปดูเว็บไซต์นี้สิ และด้วยความต้องการที่จะผิวขาวขึ้น ผมเลยจัดชุดลอกผิวมา 7 ชุด ซึ่งตอนนั้นคิดว่า 3500x7 รวมเป็น 24,500 บาท และยังมีเซ็ตหน้ารวมอีก 3 ชุด
การลอกผิวต้องทำในโหมดดักแด้ ยิ้มทั้งที่ทรมานมาก เพราะไม่สามารถออกไปข้างนอกได้ ต้องหลีกเลี่ยงแดด ต้องอาบน้ำร้อน (บ้านเราไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่นเลยต้องต้มน้ำบนเตาแก๊สแล้วผสมในถังอาบน้ำ) และทำแบบนี้เช้าเย็นทุกวัน 5 เดือน ผลลัพธ์คือ "พี่ปาล์มทำอะไรมา หน้าใสขึ้นมากเลย" และฟันก็เริ่มเข้าที่มากขึ้น รูปร่างก็เริ่มหล่อขึ้น (ไม่ใช่หล่อแล้วแต่มีความมั่นใจมากขึ้น) จนทำให้มีแฟนอีกครั้ง (เรื่องลอกผิว แนะนำว่าไม่ควรทำตาม เพราะมันอันตรายมาก)
จนกระทั่งเกิดเรื่องหนักสุดเมื่อจับได้ว่าแฟนมีคนอื่น และคนที่เค้ามีเป็นคนหน้าตาดีกว่ามาก ตอนนั้นตกใจมากจนไม่รู้จะทำยังไง จึงตัดสินใจที่จะใช้เงินทั้งหมดที่มีและกล้าไปทำศัลยกรรม และเพียงไม่กี่วันหลังจากนั้นก็จะเข้ารับการเกณฑ์ทหารเลยต้องรอจนกว่าจะเสร็จขั้นตอนนี้ ก่อนหน้านั้นไม่มีความรู้เกี่ยวกับศัลยกรรมเลย แต่เพราะคิดว่าโรงพยาบาลที่นั่นน่าจะดี เลยตัดสินใจทำตา จมูก และปาก ทั้ง 3 อย่างในครั้งเดียว เพราะเชื่อว่า สิ่งที่แพงมักจะดีเสมอ
คืนวันที่ 12 เมษา ก่อนที่จะทำศัลยกรรมหนึ่งวัน เพื่อนพาไปดูโชว์พี่ไข่มุกเพราะไม่อยากให้เรากังวลเรื่องทำหน้า นึกในใจทำไมไม่พาไปดูโชว์ที่หน้าตาดีๆ จะได้เอามาเป็นแบบ
ตอนนั้นตื่นเต้นมาก ยิ้มออกมาแบบกลัวๆ แต่ก็ยังรู้สึกเครียดนิดหน่อยจนพยาบาลพาไปล้างหน้าแล้วพาขึ้นเตียงในห้องผ่าตัด ในใจคิดว่าเมื่อไหร่จะเสร็จแล้วจะต้องหล่อแน่ๆ 555 พยาบาลจับแขนขาและล็อคหัวแล้วนั่งลุ้นว่าเมื่อไหร่หมอจะเข้ามา จนหมอเข้ามาและพูดคุยก่อนเขียนที่หน้าแล้วฉีดยาสลบ ตื่นมาถามพยาบาลว่าทำเสร็จยัง เค้าบอกว่า "ยังค่ะ ยังไม่ได้ทำค่ะแค่ฉีดยาสลบ" เซ็งเลย! ทำไมไม่ทำให้เสร็จก่อนแล้วค่อยให้ตื่นมา หลังจากนั้นหมอเริ่มทำการเย็บเปลือกตาแล้วถามพยาบาลว่า "ปากบนยังครับ" ผมตอบไปว่า ชาแล้วครับ จนมาถึงตอนที่หมอกรีดปากล่าง ซึ่งมันยังไม่ชา พอหมอบอกพยาบาลให้รีบฉีดยาชาเพิ่มเติม จนเสร็จแล้วก็ต้องไปชั้น 4 เพื่อทำจมูกอีกครั้ง แล้วก็หลับไปอีกครั้งจนเสร็จสิ้นแบบดี













จนถึงตอนนี้ แม้จะยังไม่สมบูรณ์แบบหรือไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก แต่ก็รู้สึกภูมิใจในตัวเองที่ทนและผ่านการทำศัลยกรรมครั้งนี้มาได้ จากการที่เคยถูกปฏิเสธ ตอนนี้มีโอกาสที่จะเป็นฝ่ายเลือกบ้าง
หากต้องการคำแนะนำวิธีดูแลตัวเองเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ Facebook : Palm Sirikijjakorn นะครับ
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : pantip.com