คุณรู้หรือไม่ว่าในอดีตประเทศไทยเคยมีกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับเวทมนตร์ แต่ไม่ได้ใช้ชื่อว่า กระทรวงเวทมนตร์ หากแต่ใช้ชื่อว่า กระทรวงแพทยาคม หรือในบางเอกสารเรียกว่า ศาลกระทรวงแพทยา ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ทำหน้าที่สอบสวนและพิจารณาคดีเกี่ยวกับการกระทำผิดทางไสยศาสตร์โดยเฉพาะ
วันนี้ Mytour Campus จะพาทุกคนไปรู้จักกับ กระทรวงแพทยาคม หรือกระทรวงเวทมนตร์ของไทยในอดีตที่ถูกยุบไปในช่วงรัชกาลที่ ๕ เพื่อให้เข้าใจว่าไทยเคยมีกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้จริงๆ

กระทรวงแพทยาคมคืออะไรกันแน่?
คำว่า แพทยาคม เกิดจากการรวมคำสองคำคือ แพทย และ อาคม โดยคำว่า แพทย หมายถึง หมอผู้รักษาโรค ส่วนคำว่า อาคม หมายถึง เวทมนตร์ เมื่อรวมกันจึงมีความหมายว่า หมอผู้รักษาโรคด้วยเวทมนตร์
กระทรวงแพทยาคม ไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าก่อตั้งขึ้นในสมัยใด แต่มีการกล่าวถึงในหลายรัชกาล เช่น พระเจ้าอู่ทอง และพระเจ้าทรงธรรม โดยในรัชกาลพระเจ้าทรงธรรม มีบันทึกว่ากระทรวงนี้มีหน้าที่ชำระคดีเกี่ยวกับการกระทำผิดทางไสยศาสตร์ เช่น เสน่ห์ยาแฝด หรือการฝังรูปด้วยวิทยาคม ซึ่งคำว่า วิทยาคม มาจากคำว่า วิทยา (ความรู้) และ อาคม (เวทมนตร์) รวมกันหมายถึง ความรู้เกี่ยวกับเวทมนตร์ (ส่วนคำว่า วิทยาคม ในชื่อโรงเรียนนั้น อาคม หมายถึง การมาถึง ดังนั้น วิทยาคม หรือ พิทยาคม จึงแปลว่า การมาถึงของความรู้)
กระทรวงแพทยาคม หรือ ศาลกระทรวงแพทยา มีผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาคมทำหน้าที่เป็นตุลาการ เพื่อสอบสวนและพิจารณาคดีเกี่ยวกับไสยศาสตร์ เช่น คดีคุณไสย การกล่าวหาว่าเป็นกระสือกระหัง การใช้เวทมนตร์อาคม การทำเสน่ห์ยาแฝด หรือคดีที่เกี่ยวข้องกับพราหมณ์โยคี หากคดีเกิดขึ้นในหัวเมือง ขุนหมื่นกรมแพทยาหัวเมืองจะเป็นผู้พิจารณา
กระทรวงแพทยาคม หรือ ศาลกระทรวงแพทยา มีมาตั้งแต่สมัยอยุธยาจนถึงต้นรัตนโกสินทร์ ก่อนจะถูกลดบทบาทจากศาลกระทรวงแพทยาเป็นศาลกรมแพทยาในรัชกาลที่ ๓ ปี ๒๓๘๐ และในรัชกาลที่ ๕ เกิดการปฏิรูปศาลเนื่องจากวิกฤตการศาล สุดท้ายศาลกรมแพทยาถูกยุบลงเมื่อวันที่ ๒๕ มีนาคม ๒๔๓๔ เนื่องจากถูกมองว่าล้าสมัย และเพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายพัฒนาประเทศให้ทัดเทียมชาติมหาอำนาจในสมัยนั้น