
หลายคนอาจไม่รู้ว่า ช็อกโกแลตที่เป็นขนมหวานนั้นเต็มไปด้วยประโยชน์ที่น่าทึ่ง เพียงแค่เลือกกินให้ถูกประเภทเท่านั้น และช็อกโกแลตยังสามารถช่วยบรรเทาอาการไอได้อีกด้วย
ประโยชน์ของช็อกโกแลต
- สารฟีนอลในช็อกโกแลตช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ป้องกันการอุดตันของลิ่มเลือด และช่วยป้องกันโรคหัวใจ
- ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของเยื่อบุผิว
- มีคุณค่าทางโภชนาการ ทั้งคาร์โบไฮเดรต ไขมัน วิตามินเอ ดี เค และธาตุเหล็ก
- คาเฟอีนในช็อกโกแลตช่วยให้ร่างกายตื่นตัวตลอดเวลา
- กระตุ้นการผลิตสารเอ็นดอร์ฟินในสมอง ทำให้รู้สึกดีขึ้นและลดความเครียด
- ช่วยบรรเทาอาการไอ และให้ความชุ่มชื้นเหมือนน้ำผึ้งมะนาว
- เพิ่มระดับฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน ช่วยลดอาการเกรี้ยวกราดก่อนประจำเดือน
มีการศึกษาหลายชิ้นที่พิสูจน์แล้วว่าช็อกโกแลตมีประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่าที่เราคิด โดยเฉพาะดาร์กช็อกโกแลต (Dark Chocolate) และประโยชน์หนึ่งที่บางคนอาจยังไม่ทราบคือ ช็อกโกแลตสามารถช่วยบรรเทาอาการไอได้
ช็อกโกแลตช่วยแก้ไอได้อย่างไร
ในช็อกโกแลตมีสารที่เรียกว่า ธีโอโบรมีน (Theobromine) ซึ่งเป็นสารสำคัญที่มีความสามารถในการบรรเทาอาการไอได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงหรือกระทบต่อระบบประสาทส่วนกลางและระบบหัวใจและหลอดเลือด จึงสามารถช่วยลดอาการไอทั้งแบบทันทีและเรื้อรังได้ โดยสารนี้มีฤทธิ์คล้ายคาเฟอีนแต่เบากว่า
นอกจากนี้ ธีโอโบรมีนยังมีการนำไปใช้ในวงการแพทย์ เช่น ใช้เป็นสารขยายหลอดเลือด ขับปัสสาวะ กระตุ้นการทำงานของหัวใจ และใช้เป็นยาคลายกล้ามเนื้อ รวมถึงยังมีการใช้เพื่อยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งได้ด้วย
หลักฐานที่ยืนยันว่า ช็อกโกแลตช่วยแก้ไอ
จากงานวิจัยของศาสตราจารย์อลิน มอริซ (Alyn Morice) ซึ่งเป็นหัวหน้าภาควิชาการศึกษาโรคหัวใจและหลอดเลือด รวมทั้งระบบทางเดินหายใจ ที่มหาวิทยาลัยฮัล และหนึ่งในผู้ก่อตั้งสมาคมการศึกษาการไอนานาชาติ (International Society for the Study of Cough) ได้กล่าวว่า “ช็อกโกแลตช่วยลดอาการไอลง” โดยใช้เวลาหลายปีในการศึกษาวิธีการรักษาอาการไอโดยไม่ใช้ยาที่แพทย์สั่ง ผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่า ผู้ป่วย 163 คนที่ใช้ยาที่มีส่วนผสมของช็อกโกแลตมีอาการดีขึ้นอย่างชัดเจนภายใน 2 วัน
การศึกษาของศาสตราจารย์ปีเตอร์ บาร์เน็ส (Peter Barnes) หัวหน้าทีมวิจัยจากคณะแพทยศาสตร์สถาบันโรคหัวใจและปอดแห่งชาติ มหาวิทยาลัยอิมพีเรียล ได้เผยว่า “ธีโอโบรมีน” ในช็อกโกแลตสามารถระงับอาการไอได้ดีกว่า “โคดิอีน” ที่มักพบในยาแก้ไอทั่วไป โดยไม่มีผลข้างเคียงเมื่อได้รับสารนี้ นอกจากนี้ ช็อกโกแลตแต่ละประเภทมีสารธีโอโบรมีนในปริมาณที่ต่างกัน ขึ้นอยู่กับส่วนผสมและวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิต เช่น ช็อกโกแลตบริสุทธิ์ที่ไม่มีการเติมความหวานจะมีธีโอโบรมีนถึง 450 มิลลิกรัมใน 1 ออนซ์ ขณะที่ดาร์กช็อกโกแลตมีประมาณ 150 มิลลิกรัม และช็อกโกแลตนมมีอยู่ราว 60 มิลลิกรัม
งานวิจัยล่าสุดจากโรเจอร์ ร็อบสัน (Roger Robson) ที่ศึกษากับกลุ่มตัวอย่าง 300 คนที่มีอาการไอเรื้อรังพบว่า หลังจากที่ผู้ป่วยได้รับธีโอโบรมีนวันละ 2 ครั้งต่อเนื่อง 14 วัน ผลที่ได้คือ 60 เปอร์เซ็นต์ของผู้ป่วยมีอาการดีขึ้นและไอน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด
ข้อสรุป
เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดจากการกินช็อกโกแลต ควรเลือกดาร์กช็อกโกแลต (Dark Chocolate) ซึ่งแม้ว่าจะมีน้ำตาลและนมน้อย แต่ก็ยังมีแคลอรี่สูง ดังนั้นควรบริโภคในปริมาณที่พอเหมาะและควบคู่กับการออกกำลังกายและการทานอาหารครบตามหลักโภชนาการ เพื่อสุขภาพที่ดีจากการกินช็อกโกแลต