
ข่าวดีสำหรับผู้ที่ต้องการเลิกบุหรี่ เมื่อทีมวิจัยไทยสามารถพัฒนาและผลิต “ยาเม็ดเลิกบุหรี่” ที่ใช้ได้ในประเทศเป็นครั้งแรก โดยเป็นการศึกษาวิจัยร่วมกันจากหลายหน่วยงาน เช่น คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) ร่วมกับศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบ (ศจย.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และองค์การเภสัชกรรม (อภ.)
ยาเม็ด “ไซทิซีน จีพีโอ” (Cytisine 1.5 mg tablets) เริ่มต้นการวิจัยและพัฒนามาตั้งแต่ปี 2560 ถือเป็นยาชนิดใหม่ที่ยังไม่เคยมีการขึ้นทะเบียนในประเทศไทยมาก่อน
ยาเม็ดเลิกบุหรี่ “ไซทิซีน จีพีโอ” เป็นสารสกัดจากอัลคาลอยด์ธรรมชาติที่ได้จาก “เมล็ดจามจุรีสีทอง” ซึ่งเป็นพืชสมุนไพรหลายชนิดที่มีคุณสมบัติช่วยบรรเทาอาการติดนิโคติน ช่วยให้ผู้ที่ต้องการเลิกบุหรี่รู้สึกผ่อนคลาย ไม่หงุดหงิดในระหว่างกระบวนการเลิกบุหรี่ เนื่องจากผู้ที่สูบบุหรี่มานานอาจเกิดอาการลงแดงหากหยุดแบบหักดิบ ยาตัวนี้จึงช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายและไม่เครียดระหว่างการเลิกบุหรี่
ผลการวิจัยของยาเม็ดไซทิซีน จีพีโอ (1.5 มิลลิกรัม) พบว่ามีความปลอดภัยและประสิทธิภาพที่ดี มีราคาถูกและมีงานวิจัยจากนานาชาติที่ยืนยันถึงประสิทธิผล ซึ่งได้รับการยอมรับในหลายประเทศและใช้มาแล้วกว่า 60 ปีในยุโรปตะวันออก องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้รับรองและสนับสนุนให้รัฐบาลต่างๆ จัดหายาเลิกบุหรี่ที่ราคาถูกและเข้าถึงได้ง่าย มีต้นทุนการผลิตที่ต่ำกว่ายาเลิกบุหรี่ชนิดอื่น การที่ประเทศไทยสามารถผลิตยาเลิกบุหรี่ชนิดนี้ได้เองถือเป็นก้าวสำคัญในการช่วยให้คนไทยเข้าถึงยาเลิกบุหรี่คุณภาพดีและราคาถูก ส่งเสริมให้สามารถเลิกสูบบุหรี่ได้อย่างยั่งยืน
ยาเม็ดไซทิซีน จีพีโอ (1.5 มิลลิกรัม) ที่พัฒนาขึ้นนี้ จะใช้ทดแทนยาเม็ด Varenicline ที่ใช้อยู่ในปัจจุบันในการรักษาผู้ป่วยที่ต้องการเลิกบุหรี่ เพราะช่วยประหยัดงบประมาณค่ายาต่อคอร์สการรักษา และลดระยะเวลาการรักษาลง 3-4 เท่า อีกทั้งยังช่วยลดการนำเข้ายาจากต่างประเทศได้ถึงประมาณ 12 ล้านบาทต่อปี
ก่อนหน้านี้ประเทศไทยยังไม่มียาชนิดนี้อยู่ในระบบบัญชียาหลัก แต่ภาครัฐได้เร่งผลักดันให้ยาเม็ดไซทิซีน จีพีโอ เข้าสู่บัญชียาหลัก เพื่อให้คนไทยทุกคนสามารถเข้าถึงยาได้ ตอนนี้ยาเม็ดไซทิซีน จีพีโอ ได้ถูกบรรจุในบัญชียาหลักแล้ว ซึ่งจะสามารถเบิกจ่ายได้ฟรีเหมือนยาตัวอื่น ๆ ตามสิทธิบัตรทอง สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการติดบุหรี่
การใช้ยาไซทิซีน จีพีโอ
ผู้ที่ติดบุหรี่หรือมีการติดนิโคตินในบุหรี่ เมื่อพยายามเลิกบุหรี่ด้วยวิธีการหักดิบมักจะเกิดอาการลงแดงหรืออยากบุหรี่ อาการเหล่านี้เช่น หงุดหงิด งุ่นง่าน ขาดสมาธิ โมโหง่าย นอนไม่หลับ รวมถึงอาการหิวบ่อย ซึ่งพบว่า 70% ของคนที่พยายามหยุดบุหรี่จะมีแนวโน้มกินมากขึ้น จนทำให้มีน้ำหนักขึ้น 5-10 กิโลกรัม ซึ่งต้องใช้เวลานานในการลดน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นจากการเลิกบุหรี่
ยาไซทิซีน จีพีโอ จะช่วยบรรเทาอาการติดนิโคติน โดยให้รับประทานยาขนาด 1.5 มิลลิกรัมต่อเม็ด ในช่วง 3 วันแรกต้องกินยา 6 เม็ดต่อวัน จากนั้นค่อย ๆ ลดปริมาณลงจนเหลือ 5 เม็ด 4 เม็ด และ 2 เม็ดต่อวัน กินยาให้ครบ 25 วัน อย่างไรก็ตาม มีงานวิจัยจากต่างประเทศที่พบวิธีการกินยาชนิดนี้ง่ายขึ้น โดยอาจจะรับประทาน 2 เม็ด 3 ครั้งต่อวันเป็นระยะเวลา 25 วัน ซึ่งได้ผลลัพธ์ที่ใกล้เคียงกัน
ไซทิซีน (Cytisine) ยาใหม่ที่ใช้เลิกบุหรี่
จากข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติที่เผยแพร่โดยองค์การเภสัชกรรมในปี 2564 พบว่า คนไทยที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป มีจำนวนถึง 9.9 ล้านคนที่ยังคงสูบบุหรี่ และยังเสียชีวิตจากโรคต่าง ๆ เช่น มะเร็งปอด มะเร็งหลอดอาหาร ถุงลมโป่งพอง และโรคหัวใจ ที่เกิดจากการสูบบุหรี่
ก่อนหน้านี้ หากใครต้องการเลิกบุหรี่ในประเทศไทย จะมียา 5 รายการที่ใช้สำหรับเลิกบุหรี่ ได้แก่ ยาเม็ด Varenicline, ยาเม็ด Bupropion, นิโคตินทดแทน (Nicotine replacement therapy), ยาเม็ด Nortriptyline และยาชงสมุนไพรหญ้าดอกขาว โดยมีแค่ยาเม็ด Nortriptyline และยาชงสมุนไพรหญ้าดอกขาวที่ได้รับการบรรจุในบัญชียาหลักแห่งชาติ
ในต่างประเทศ แนวทางการบำบัดผู้ติดบุหรี่คือ การให้ยาเลิกบุหรี่ทุกคนที่ต้องการเลิกสูบ แต่ในประเทศไทยมีปัญหาเรื่องงบประมาณ การจ่ายยาเลิกบุหรี่จึงต้องพิจารณาเป็นรายบุคคล สำหรับผู้ที่ไม่สามารถเลิกได้ด้วยตัวเอง หรือในผู้ที่มีอาการติดนิโคตินรุนแรง โดยแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ต้องสูบบุหรี่มวนแรกภายในครึ่งชั่วโมงหลังตื่นนอน และกลุ่มที่สูบบุหรี่วันละ 20 มวนขึ้นไป หรือสูบบุหรี่ไฟฟ้าถึง 20 ที ถึงจะพิจารณาให้ใช้ยา แต่ยาเลิกบุหรี่และนิโคตินทดแทนทั้งแผ่นแปะและหมากฝรั่งยังไม่ได้รับการบรรจุในบัญชียาหลัก เนื่องจากราคาค่อนข้างสูง ต้องเสียค่าใช้จ่ายเอง
จากสถิติของเครือข่ายคลินิกให้คำปรึกษาเลิกบุหรี่ พบว่า ใน 1 ปี ผู้ที่เข้ารับบริการมีโอกาสเลิกสูบบุหรี่ได้สำเร็จประมาณ 30-40 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่ผู้ที่ไม่ใช้ยาอาจสำเร็จแค่ 10 เปอร์เซ็นต์ และในผู้ที่พยายามเลิกเองโดยไม่ได้รับบริการจากที่ใด มีโอกาสสำเร็จเพียงแค่ 5 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ดังนั้น ยาไซทิซีน จีพีโอ จึงถือเป็นตัวช่วยสำคัญในการทำให้คนไทยสามารถเลิกบุหรี่ได้มากขึ้น ด้วยประสิทธิภาพที่ดี ปลอดภัย ราคาถูก และสามารถผลิตได้ในประเทศไทย
ปัจจุบันยาไซทิซีน จีพีโอ ได้รับการขึ้นทะเบียนในบัญชียาหลักแห่งชาติแล้ว ซึ่งทำให้สามารถเบิกจ่ายได้ฟรีผ่านสิทธิการรักษาบัตรทอง เป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อผู้ที่ต้องการเลิกบุหรี่ เนื่องจากยาแผนปัจจุบันบางชนิดมีราคาแพงและมีผลข้างเคียงสูง ทำให้เกิดปัญหาการเข้าถึงยา แต่การที่มีไซทิซีน จีพีโอในบัญชียาหลักแห่งชาติ จะทำให้คนไทยสามารถเข้าถึงยาช่วยเลิกบุหรี่ที่มีประสิทธิภาพได้อย่างทั่วถึง และช่วยลดอัตราการสูบบุหรี่ในประเทศตามเป้าหมาย โดยผู้ที่ต้องการเลิกบุหรี่จะได้รับประโยชน์ รวมไปถึงผู้ที่ไม่สูบและต้องทนรับควันบุหรี่จากผู้สูบด้วย