ข่าวเกี่ยวกับการทลายโรงงานหรือบริษัทที่ผลิตอาหารปลอม ยาปลอม หรือเครื่องสำอางปลอมเป็นเรื่องที่พบเห็นได้ทุกวัน ทำให้หลายคนเกิดคำถามว่า ผลิตภัณฑ์ที่เราซื้อมาใช้ในชีวิตประจำวันนั้น เป็นของจริงหรือของปลอมกันแน่ และการใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านั้นอาจมีผลกระทบอะไรต่อสุขภาพของเรา เป็นสิ่งที่หลายคนกังวล
จริง ๆ แล้วในประเทศไทยผลิตภัณฑ์สุขภาพที่วางจำหน่ายได้ผ่านมาตรฐานที่ตรวจสอบอย่างรอบคอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำให้ผู้บริโภคสามารถมั่นใจได้ว่า ผลิตภัณฑ์ที่เราเลือกซื้อใช้ได้อย่างปลอดภัย เนื่องจากได้รับการพิจารณาในด้านคุณภาพ ประสิทธิภาพ และความปลอดภัยจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) พร้อมทั้งได้รับการรับรองตามเกณฑ์ที่กำหนด
สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) มีภารกิจในการคุ้มครองผู้บริโภคจากการใช้ผลิตภัณฑ์สุขภาพ ซึ่งรวมถึงอาหาร ยา เวชภัณฑ์ และเครื่องสำอาง โดยเครื่องหมาย อย. บนผลิตภัณฑ์เป็นสัญลักษณ์ที่ยืนยันว่าผลิตภัณฑ์นั้นได้รับการตรวจสอบแล้วตามมาตรฐานของ อย. ซึ่งทำให้ผู้บริโภคสามารถมั่นใจได้ในความปลอดภัย นอกจากนี้ สำหรับผู้ที่ต้องการทำธุรกิจผลิตภัณฑ์สุขภาพ ก็ต้องศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการขอเครื่องหมาย อย. เพื่อให้ได้มาตรฐานที่ถูกต้อง
เครื่องหมายหรือสัญลักษณ์ที่แสดงว่าผลิตภัณฑ์นั้นได้รับการอนุญาตหรือจดแจ้งกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) แล้ว
เครื่องหมายนี้ได้รับการลงทะเบียนและผ่านการพิจารณาในด้านประสิทธิภาพ คุณภาพ และความปลอดภัยตามมาตรฐานของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ซึ่งได้รับอนุญาตให้ผลิตหรือจำหน่ายอย่างถูกต้อง
1. สัญลักษณ์สารบบอาหาร หรือที่เรารู้จักกันในชื่อเครื่องหมาย อย. มักพบในผลิตภัณฑ์อาหารและอาหารเสริม ซึ่งจะต้องมีหมายเลข 13 หลัก โดยแต่ละหลักแสดงรายละเอียดต่าง ๆ ดังนี้

2. สัญลักษณ์ทะเบียนยา ใช้สำหรับผลิตภัณฑ์ยาไม่ว่าจะเป็นยาแผนปัจจุบัน ยาแผนไทย หรือยาแผนโบราณ ซึ่งทุกผลิตภัณฑ์ยาจะมีเลขทะเบียนตำรับยาบนฉลากเสมอ เพื่อแสดงว่าผ่านการอนุญาตและจดแจ้งกับ อย. โดยมีรายละเอียดดังนี้

ตัวอักษร A-N ใช้แทนประเภทของยา โดยแต่ละตัวอักษรมีความหมายดังนี้
A-F ยาแผนปัจจุบัน
- A คือ ยาที่ผลิตในประเทศสำหรับมนุษย์
- B คือ ยาที่แบ่งบรรจุสำหรับมนุษย์
- C คือ ยาที่นำเข้าหรือสั่งเข้ามาสำหรับมนุษย์
- D คือ ยาที่ผลิตในประเทศสำหรับสัตว์
- E คือ ยาที่แบ่งบรรจุสำหรับสัตว์
- F คือ ยาที่นำเข้าหรือสั่งเข้ามาสำหรับสัตว์
G-N ยาแผนโบราณ
- G คือ ยาที่ผลิตในประเทศสำหรับมนุษย์
- H คือ ยาที่แบ่งบรรจุสำหรับมนุษย์
- K คือ ยาที่นำเข้าหรือสั่งเข้ามาสำหรับมนุษย์
- L คือ ยาที่ผลิตในประเทศสำหรับสัตว์
- M คือ ยาที่แบ่งบรรจุสำหรับสัตว์
- N คือ ยาที่นำเข้าหรือสั่งเข้ามาสำหรับสัตว์
3. สัญลักษณ์เลขที่ใบรับแจ้ง จะพบในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ซึ่งหมายเลขนี้แสดงให้เห็นว่าผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางนั้นได้ดำเนินการแจ้งรายละเอียดการผลิตเพื่อจำหน่ายหรือนำเข้าแล้ว โดยจะมีหมายเลข 10 หลัก หรือ 13 หลัก พร้อมรายละเอียดต่าง ๆ ดังนี้

การแสดงเครื่องหมาย อย. บนฉลากผลิตภัณฑ์
คุณเคยสังเกตไหมว่า ผลิตภัณฑ์สุขภาพ เช่น อาหาร ยา เครื่องสำอาง เครื่องมือแพทย์ หรือวัตถุอันตรายที่ใช้ในบ้าน จะไม่ได้มีเครื่องหมาย อย. ทุกประเภท โดยจะมีการกำหนดชัดเจนว่าผลิตภัณฑ์ใดต้องมีเครื่องหมาย อย. และผลิตภัณฑ์ใดที่ไม่จำเป็นต้องมีเครื่องหมาย อย. ซึ่งสามารถแบ่งได้ดังนี้
ผลิตภัณฑ์ที่มีเครื่องหมาย อย.
- ผลิตภัณฑ์อาหารต้องมีการแสดงเลขสารบบอาหาร โดยจะต้องมีหมายเลข 13 หลักในเครื่องหมาย อย. สำหรับผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูปที่บรรจุในภาชนะพร้อมจำหน่าย จะไม่จำเป็นต้องขอเลข อย. แต่สามารถยื่นขอได้ โดยสถานที่ผลิตต้องผ่านหลักเกณฑ์ที่กำหนด
- เครื่องมือแพทย์ที่ต้องการใบอนุญาตจะต้องแสดงเลขรับจดแจ้งว่าผลิตหรือนำเข้า พร้อมกับแจ้งรายการละเอียดการอนุญาตในเครื่องหมาย อย. เช่น ถุงยางอนามัย ถุงมือยางสำหรับศัลยกรรม ชุดตรวจเชื้อ HIV และคอนแทคเลนส์
- วัตถุอันตรายที่ใช้ในบ้านเรือนจะมีตัวอักษร วอส. ตามด้วยเลขทะเบียนและปี พ.ศ. ในกรอบเครื่องหมาย อย. เช่น ผลิตภัณฑ์ป้องกัน/กำจัด/ไล่แมลง ผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อที่ใช้ในครัวเรือน และผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดพื้นผิว
ผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีเครื่องหมาย อย.
- ผลิตภัณฑ์ยา ต้องแสดงเลขทะเบียนตำรับยา
- เครื่องสำอาง ต้องแสดงเลขที่รับจดแจ้ง ซึ่งต้องมีหมายเลข 10 หรือ 13 หลัก และห้ามนำเลขดังกล่าวใส่ในเครื่องหมาย อย.
- เครื่องมือแพทย์ที่ต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม ต้องแสดงเลขที่ใบรับแจ้ง เช่น เครื่องมือสำหรับกายภาพบำบัด เครื่องตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ในร่างกาย และเต้านมเทียมซิลิโคน แต่เครื่องมือแพทย์ทั่วไปไม่จำเป็นต้องมีเครื่องหมาย อย. หรือเลขที่ใบรับแจ้ง เช่น เตียงผ่าตัด และเครื่องตรวจวัดความดันโลหิต
- วัตถุอันตรายที่ใช้ในบ้านเรือน ผลิตภัณฑ์บางประเภทไม่ต้องมีเครื่องหมาย อย. แต่ต้องแสดงเลขที่ใบรับแจ้ง/ปี เช่น ผลิตภัณฑ์ล้างจาน ผลิตภัณฑ์ซักผ้า และผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดพื้น
อาหารชนิดใดบ้างที่ต้องแสดงเครื่องหมาย อย.
การแสดงเครื่องหมาย อย. สำหรับผลิตภัณฑ์อาหาร หรือที่เรียกว่าสัญลักษณ์สารบบอาหาร คือการแสดงเครื่องหมายหรือรูปแบบของอาหารที่ได้รับการอนุญาตขึ้นทะเบียนตํารับอาหาร การอนุญาตใช้ฉลากอาหาร การจดทะเบียนอาหาร หรือการแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับอาหาร ซึ่งประกอบด้วยเครื่องหมายและเลขสารบบอาหาร ตามข้อมูลจากกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม
อาหารที่จำเป็นต้องแสดงเลขสารบบอาหารสามารถแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มหลัก ได้แก่
กลุ่มที่ 1 อาหารที่ต้องควบคุมเฉพาะ มีทั้งหมด 17 ประเภท ได้แก่
- นมดัดแปลงสำหรับทารกและนมดัดแปลงสูตรต่อเนื่องสำหรับทารกและเด็กเล็ก
- อาหารทารกและอาหารสูตรต่อเนื่องสำหรับทารกและเด็กเล็ก
- อาหารเสริมสำหรับทารกและเด็กเล็ก
- นมโค
- นมปรุงแต่ง
- นมเปรี้ยว
- ไอศกรีม
- อาหารในภาชนะบรรจุที่ปิดสนิท
- ผลิตภัณฑ์จากนม
- น้ำบริโภคในภาชนะบรรจุที่ปิดสนิท
- เครื่องดื่มในภาชนะบรรจุที่ปิดสนิท
- น้ำแข็ง
- อาหารสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก
- สีผสมอาหาร
- วัตถุที่ใช้ปรุงแต่งรสอาหาร
- วัตถุเจือปนอาหาร
- โซเดียมไซคลาเมตและอาหารที่มีโซเดียมไซคลาเมต
กลุ่มที่ 2 อาหารที่มีการกำหนดคุณภาพหรือมาตรฐาน มีทั้งหมด 31 ประเภท ได้แก่
- น้ำมันและไขมัน
- น้ำมันถั่วลิสง
- เนย
- เนยเทียม
- เนยกี
- อาหารกึ่งสำเร็จรูป
- น้ำมันเนย
- น้ำปลา
- น้ำส้มสายชู
- ครีม
- น้ำมันปาล์ม
- น้ำมันมะพร้าว
- ชา
- น้ำนมถั่วเหลืองในภาชนะบรรจุที่ปิดสนิท
- กาแฟ
- แยม เยลลี มาร์มาเลดในภาชนะบรรจุที่ปิดสนิท
- เครื่องดื่มเกลือแร่
- รอยัลเยลลีและผลิตภัณฑ์รอยัลเยลลี
- น้ำผึ้ง
- น้ำแร่จากธรรมชาติ
- เนยแข็ง
- ซอสบางชนิด
- น้ำที่เหลือจากผลิตภัณฑ์โมโนโซเดียมกลูตาเมต
- ไข่เยี่ยวม้า
- ผลิตภัณฑ์ปรุงรสที่ได้จากการย่อยโปรตีนของถั่วเหลือง
- ข้าวเติมวิตามิน
- ช็อกโกแลต
- เกลือบริโภค
- อาหารที่มีสารพิษตกค้าง
- อาหารที่มีสารปนเปื้อน
- อาหารที่มีกัมมันตรังสี
กลุ่มที่ 3 อาหารที่ได้รับการประกาศจากรัฐมนตรีให้ต้องมีการแสดงฉลาก ประกอบด้วย 14 ประเภท ได้แก่
- ผลิตภัณฑ์จากเนื้อสัตว์
- แป้งข้าวกล้อง
- น้ำเกลือปรุงอาหาร
- ซอสในภาชนะบรรจุที่ปิดสนิท
- ขนมปัง
- หมากฝรั่งและลูกอม
- วุ้นสำเร็จรูปและขนมเยลลี
- อาหารที่ใช้กรรมวิธีการฉายรังสีในการผลิต
- ผลิตภัณฑ์กระเทียม
- วัตถุแต่งกลิ่นและรส
- อาหารที่มีวัตถุที่ใช้รักษาคุณภาพหรือมาตรฐานของอาหารอยู่ในภาชนะบรรจุ
- อาหารที่มีส่วนผสมของว่านหางจระเข้
- อาหารที่มีวัตถุประสงค์พิเศษ
การแสดงฉลากสำหรับอาหารที่พร้อมปรุงและอาหารสำเร็จรูปที่สามารถบริโภคได้ทันที
ผลิตภัณฑ์อาหารที่จำเป็นต้องมีการแสดงเครื่องหมาย อย. ได้แก่
1. กลุ่มอาหารที่จำเป็นต้องมีเครื่องหมาย อย. แต่ไม่จำเป็นต้องส่งตัวอย่างอาหารไปตรวจวิเคราะห์ ได้แก่
- เครื่องปรุงรสและน้ำจิ้ม
- น้ำพริกสำเร็จรูปที่สามารถรับประทานได้ทันที
- ผลิตภัณฑ์อบกรอบ, ทอด, กวน, ตาก, หมัก, ดองจากผลไม้
- ผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการปรุงสุกจากสัตว์
- ขนมและอาหารขบเคี้ยว
- ลูกอมและทอฟฟี
2. กลุ่มอาหารที่จำเป็นต้องมีเครื่องหมาย อย. และต้องมีรายงานผลการตรวจวิเคราะห์อาหารเพื่อการตรวจสอบ ได้แก่
- น้ำส้มสายชู
- น้ำมันสำหรับการปรุงอาหาร
- ไข่เยี่ยวม้า
- กาแฟประเภทเมล็ดคั่ว/ผงสำเร็จรูป/ปรุงสำเร็จ
- ชาในรูปแบบใบชา/ผงสำเร็จรูป/ปรุงสำเร็จ
- น้ำพริกแกง
- เครื่องปรุงโปรตีนจากถั่ว
- แยม, เยลลี และมาร์มาเลด
- อาหารกึ่งสำเร็จรูป
- ลูกอมและทอฟฟี
3. กลุ่มอาหารที่ต้องมีเครื่องหมาย อย. และต้องส่งตัวอย่างอาหารเพื่อตรวจวิเคราะห์ ได้แก่
- เครื่องดื่มที่ทำจากน้ำพืช ผัก ผลไม้ สมุนไพร ธัญพืช ถั่วเมล็ดแห้ง น้ำตาลสด เครื่องดื่มรังนก กาแฟ ถั่วเหลือง
- อาหารบรรจุในภาชนะที่ปิดสนิท เช่น อาหารกระป๋อง, อาหารบรรจุขวดแก้วที่มีฝาปิดยางรองด้านใน, อาหารบรรจุกล่อง ซอง ถุงอะลูมิเนียมฟอยล์ที่ปิดผนึก
- นมและผลิตภัณฑ์นม เช่น นมโค, นมปรุงแต่ง, นมเปรี้ยว, ไอศกรีม, เนยแข็ง, เนย
- น้ำดื่มและน้ำบริโภคในภาชนะบรรจุที่ปิดสนิท
นอกจากนี้ยังมีอาหารที่ไม่จำเป็นต้องมีเครื่องหมาย อย. ซึ่งกลุ่มอาหารเหล่านี้ ผู้ผลิตไม่ต้องขออนุญาตในการผลิต แต่จะต้องแสดงฉลากตามข้อกำหนดของกฎหมายที่ระบุไว้
- ผลิตภัณฑ์จากพืช เช่น ข้าวกล้อง ธัญพืชต่าง ๆ เมล็ดถั่วแห้ง งา พริกแห้ง ข้าวเกรียบ (ที่ไม่ได้ทอด) ธัญพืชที่บดหรือผง พริกป่น
- ผลิตภัณฑ์จากสัตว์ เช่น ปลาแห้ง กุ้งแห้ง รังนกแห้ง ไข่เค็มดิบ กะปิ ปลาร้าผง/ดิบ ปลาส้ม น้ำบูดู น้ำผึ้ง (ที่ผลิตจากสถานที่ที่ไม่ใช่โรงงาน)