
การทำงานล่วงเวลา OT หรือ Overtime หมายถึง การทำงานเกินกว่าชั่วโมงทำงานปกติที่กฎหมายแรงงานไทยกำหนดไว้ที่ 8 ชั่วโมงต่อวัน และ 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ หากพนักงานทำงานเกินเวลาดังกล่าว นายจ้างต้องจ่ายค่าล่วงเวลาในอัตรา 1.5 เท่าของค่าจ้างปกติสำหรับวันทำงานทั่วไป และ 2 เท่าสำหรับวันหยุดราชการ ทั้งนี้ นายจ้างและพนักงานสามารถตกลงกันเพื่อจ่ายค่าล่วงเวลาในอัตราที่สูงกว่าได้
Mytour Campus ได้รวบรวม สูตรคำนวณค่าล่วงเวลา (OT) ในรูปแบบต่าง ๆ ไว้ดังนี้
วิธีการคำนวณค่าล่วงเวลา ตามกฎหมายแรงงาน
ค่าล่วงเวลาในวันทำงานปกติ = (ค่าจ้างพื้นฐาน x 1.5) x จำนวนชั่วโมงที่ทำงานล่วงเวลา
ค่าล่วงเวลาในวันหยุดราชการ = (ค่าจ้างพื้นฐาน x 2) x จำนวนชั่วโมงที่ทำงาน
ตัวอย่างการคำนวณค่าล่วงเวลาในวันทำงานปกติ
พนักงานที่มีรายได้ 300 บาทต่อวัน และทำงานล่วงเวลา 2 ชั่วโมงในวันธรรมดา จะได้รับค่าล่วงเวลาเท่ากับ (300 บาท x 1.5) x 2 = 900 บาท
ตัวอย่างการคำนวณค่าล่วงเวลาในวันหยุดราชการ
พนักงานที่มีรายได้ 300 บาทต่อวัน และทำงานล่วงเวลา 2 ชั่วโมงในวันหยุดราชการ จะได้รับค่าล่วงเวลาเท่ากับ (300 บาท x 2) x 2 = 1200 บาท
วิธีการคำนวณค่าล่วงเวลาในแต่ละเดือน
สูตรคำนวณค่าล่วงเวลาเดือน = (เงินเดือน / 30 วัน / ค่าจ้างพื้นฐาน X 1.5) X จำนวนชั่วโมงที่ทำงาน
ตัวอย่างการคำนวณค่าล่วงเวลาในแต่ละเดือน
ตัวอย่างการคำนวณ : กรณีได้รับค่าล่วงเวลา 1.5 เท่า และทำงานล่วงเวลา 3 ชั่วโมง โดยมีเงินเดือน 20,000 บาท
ค่าล่วงเวลาที่จะได้รับในวันนั้น = (20,000 / 30 / 8) X 1.5 X 3 = 375 บาท
นอกจากนี้ กฎหมายแรงงานยังบังคับให้นายจ้างต้องจ่ายค่าล่วงเวลาให้พนักงานในอัตรา 1.25 เท่าของค่าจ้างปกติสำหรับการทำงานในวันหยุดนักขัตฤกษ์ ทั้งนี้ นายจ้างและพนักงานสามารถตกลงกันเพื่อจ่ายค่าล่วงเวลาในอัตราที่สูงกว่าได้
วิธีการคำนวณค่าล่วงเวลาในแต่ละวัน
สูตรคำนวณค่าล่วงเวลารายวัน = (ค่าจ้างต่อวัน / ชั่วโมงทำงานปกติ) X (1.5 หรือ 3 เท่า) X (จำนวนชั่วโมงที่ทำงานล่วงเวลา)
ตัวอย่างการคำนวณค่าล่วงเวลาในแต่ละวัน
ตัวอย่างการคำนวณ : กรณีได้รับค่าล่วงเวลา 3 เท่า และทำงานล่วงเวลา 4 ชั่วโมง
ค่าล่วงเวลาที่จะได้รับในวันนั้น = (400 / 8) X 3 X 4 = 600 บาท
วิธีการคำนวณค่าล่วงเวลาในวันหยุดนักขัตฤกษ์และวันหยุดทั่วไป
- พนักงานที่มีสิทธิได้รับค่าจ้างในวันหยุด เช่น พนักงานรายเดือน
พนักงานที่มีสิทธิได้รับค่าจ้างในวันหยุด เช่น พนักงานรายเดือน จะได้รับค่าตอบแทนไม่น้อยกว่า 1 เท่าของค่าจ้างปกติ
สูตรคำนวณค่าล่วงเวลา : (เงินเดือน / 30 วัน / ชั่วโมงทำงานปกติ) X (1 เท่า) X (จำนวนชั่วโมงที่ทำงาน)
ตัวอย่างการคำนวณ : (20,000 / 30 / 8) X 1 X 8
ค่าล่วงเวลาที่จะได้รับในวันนั้น = 667 บาท - พนักงานที่มีสิทธิได้รับค่าจ้างในวันหยุด เช่น พนักงานรายวัน
พนักงานที่มีสิทธิได้รับค่าจ้างในวันหยุด เช่น พนักงานรายวัน จะได้รับค่าตอบแทนไม่น้อยกว่า 2 เท่าของค่าจ้างปกติ
สูตรคำนวณค่าล่วงเวลา : (ค่าจ้างต่อวัน / ชั่วโมงทำงานปกติ) X (2 เท่า) X (จำนวนชั่วโมงที่ทำงาน)
ตัวอย่างการคำนวณ : (400 / 8) X 2 X 8
ค่าล่วงเวลาที่จะได้รับในวันนั้น = 800 บาท
การทำงานล่วงเวลามีทั้งข้อดีและข้อเสีย ข้อดีคือพนักงานอาจได้รับรายได้เพิ่มขึ้นและมีโอกาสพัฒนาทักษะการทำงานมากขึ้น ในทางกลับกัน ข้อเสียคือพนักงานอาจเกิดความเหนื่อยล้า ความเครียดสะสม และส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาว
หากพนักงานทำงานล่วงเวลามากเกินไป พนักงานควรขอเวลาพักผ่อนเพื่อฟื้นฟูร่างกายและจิตใจ รวมถึงปรึกษากับนายจ้างเพื่อหาทางออกที่เหมาะสมในการจัดการปัญหาการทำงานล่วงเวลา