
ในช่วงฤดูร้อน ไม่ว่าจะเป็นการไปเที่ยวทะเลหรือทำกิจกรรมกลางแจ้งที่ต้องสัมผัสกับแสงแดดเป็นเวลานาน อาจทำให้เกิดปัญหาผิวไหม้จากแดดได้
ผิวไหม้แดดหมายความว่าอย่างไร?
ผิวไหม้แดด (Sunburn) คือภาวะที่ผิวหนังเกิดการอักเสบ แดง และรู้สึกแสบร้อน เนื่องจากการสัมผัสรังสีอัลตราไวโอเลตหรือรังสียูวีมากเกินไป มักจะสังเกตเห็นอาการได้หลังจากโดนแดดประมาณ 2-6 ชั่วโมง โดยผิวจะแดง บางรายที่มีอาการรุนแรงอาจมีตุ่มน้ำใสขึ้น และหลังจากผ่านไป 2-3 วัน ผิวอาจเริ่มลอก บวมแดง และรู้สึกร้อนหรือแสบ
วิธีการดูแลและฟื้นฟูผิวที่ไหม้จากแดด
หากผิวไหม้แดดอยู่ในระดับที่ไม่รุนแรงมาก อาจสามารถหายได้เองตามธรรมชาติ โดยผิวชั้นนอกจะเริ่มลอกออกภายใน 2-3 วันหรืออาจนานกว่านั้น ผิวใหม่ที่ขึ้นมาอาจยังไม่สม่ำเสมอในเรื่องสี แต่จะค่อยๆ ดีขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป
ขั้นตอนการปฐมพยาบาลเบื้องต้นเมื่อเกิดปัญหาผิวไหม้จากแดด
- อาบน้ำหรือแช่น้ำเย็นเพื่อช่วยระบายความร้อนออกจากผิว
- ทามอยส์เจอไรเซอร์เพื่อช่วยบรรเทาอาการแห้งกร้านและลดการสูญเสียน้ำ ควรทาทันทีหลังอาบน้ำขณะที่ผิวยังหมาดๆ
- ใช้ครีมคอร์ติโคสเตียรอยด์ที่มีฤทธิ์อ่อน เช่น Hydrocortisone cream 2% ระวังการใช้ครีมที่มีฤทธิ์แรงโดยไม่ปรึกษาแพทย์
- ทาว่านหางจระเข้ (Aloe) เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นและลดการอักเสบ
- หากมีอาการบวม ปวด แดง ร้อน สามารถรับประทานยา Ibuprofen ได้ แต่ต้องรับประทานหลังอาหารทันที และควรระวังในผู้ที่มีปัญหาโรคกระเพาะหรือแพ้ยากลุ่ม NSAIDs
- ดื่มน้ำให้มาก เพราะผิวไหม้แดดทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำ
- หากผิวมีตุ่มน้ำ (second degree sunburn) ห้ามเจาะหรือแกะ ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังทันที และหากมีอาการปวดศีรษะ มีไข้ หรือหนาวสั่น ควรรีบพบแพทย์
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดซ้ำ เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งผิวหนัง
วิธีเหล่านี้สามารถช่วยป้องกันผิวไหม้แดดและความคล้ำเสียจากแสงแดดได้ แต่ควรป้องกันผิวด้วยการสวมเสื้อผ้าที่ปกปิดผิวและใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป ซึ่งสามารถป้องกันรังสียูวีเอ (UVA) และยูวีบี (UVB) ได้ หากอาการผิวไหม้แดดไม่ดีขึ้น ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม