ป๊อก วงซีล หรือ ป๊อก ต่อยศ จงแจ่ม มือเบสวง Zeal ถือเป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญในวงการดนตรีไทย โดยมีประสบการณ์การทำงานทั้งในฐานะนักดนตรีแบ็กอัพ มือปืนห้องอัด และศิลปินที่อยู่เบื้องหน้าในวงการมาเกินกว่า 20 ปี ป๊อกจะมาแชร์ 5 เพลงที่สะท้อนเรื่องราวและความทรงจำต่างๆ ซึ่งเริ่มต้นจากการเล่นกีตาร์ 4 สาย และการทำงานแบ็กอัพให้กับพี่อรอรีย์ จนกลายเป็นมือปืนห้องอัด ป๊อกได้เปิดเผยเรื่องราวเหล่านี้ในรายการ 5TRACKS 5 เพลง 5 เรื่องราว ทางยูทูบ PEEEPZ DOC
ป๊อก เล่าถึงจุดเริ่มต้นของการเล่นเบสว่า ตอนที่เขาเรียนอยู่ในมัธยมต้นที่โรงเรียนชายล้วน เพื่อนๆ อยากตั้งวงดนตรี ขณะที่เขาเองอยู่ในวงโยธวาทิตของโรงเรียนจึงอยากลองเล่นเครื่องดนตรีสตริงบ้าง เพื่อนๆ จึงรวมตัวกันเข้าไปซ้อมดนตรี ในขณะที่ตัวเขายังไม่สามารถเล่นอะไรได้ ก็ไปนั่งรออยู่ข้างๆ ตอนนั้นเขาคิดว่าอยากเล่นกลอง แต่เพื่อนกลับจองกลองไปก่อน แล้วเขาก็พบว่าเบสยังไม่มีใครเล่น เขาจึงลองจับมันดู ทั้งที่ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเบสเลย แต่ดูเหมือนว่ามันจะเลือกเขามากกว่า

แทร็กแรกที่ป๊อกยกให้คือเพลงระดับตำนานจากวง สามโทน เพลง "เจ้าภาพจงเจริญ" ซึ่งเป็นเพลงในความทรงจำของป๊อกในช่วงเริ่มต้นเล่นเบส ตอนนั้นเขายังใหม่มากกับการเล่นเบส เพื่อนๆ ได้เอากีตาร์โปร่งมาช่วยให้เล่น ซึ่งสายกีตาร์ไม่ครบ แต่กลับมีแค่ 4 สายพอดีเหมือนเบส ทำให้เขาฝึกเล่นได้ จากนั้นเขาก็ไปหาหนังสือเพลงมาอ่านและฝึกเล่น จนทุกวันนี้ที่เขายังเล่นกีตาร์ไม่เป็นเพราะไม่เคยจับสาย 2 สายล่าง (หัวเราะ)
ตอนนี้เพลงของสามโทนยังคงคิดไม่ออก แต่ถ้าจะนึกถึงช่วงนั้น อาจจะเคยเอาเพลงของวงมาฝากในงานสักงานหนึ่ง เพลงของวงนี้ในยุคนั้นดังมาก แต่ช่วงตอนที่เรียน ม.2-ม.3 เพลงของวงนูโวเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ เพราะเราจัดวงดนตรีแนวนูโว
เมื่อถูกถามว่า ถ้าเทียบฝีมือการตีกลองระหว่างป๊อกกับเคนใครเก่งกว่ากัน ป๊อกตอบว่า "กูเก่งกว่า ร้องเพลงพี่ก็ร้องดีกว่า คือทำได้ทุกอย่างดีกว่าเพื่อนๆ ในวง กีตาร์ก็เล่นได้ แต่เล่นได้แค่ 4 สาย (หัวเราะ)"
แทร็กที่ 2 คือเพลง "ตาสว่าง" จากวง Moderndog ซึ่งเป็นหนึ่งในอัลบั้มที่เขาได้ร่วมงานในสตูดิโอกับพี่ๆ MD ที่เป็นไอดอล จุดเริ่มต้นมาจากความประทับใจในวงโมเดิร์นด็อก ซึ่งในตอนนั้นพวกเขาคือวงอันดับหนึ่งในยุคนั้น คิดดูว่าผู้ชายคนหนึ่งที่เริ่มต้นเล่นเบสแบบไม่มีพื้นฐาน แต่สามารถร่วมงานกับวงนี้ได้ มันเป็นความตื่นเต้นมากจริงๆ

เขายังได้มีโอกาสร่วมทำโปรเจกต์ในอัลบั้มโดยการอัดเสียงให้พี่ๆ ในอัลบั้มแดดส่อง เขาได้เข้าไปอยู่ในห้องซ้อมและร่วมออกแบบเพลงกับพี่ๆ ซึ่งมันทำให้รู้สึกขนลุกมาก เพราะได้เติมเต็มในส่วนที่พี่ๆ ต้องการ และมันไม่ใช่แค่เป็นการทำงานเท่านั้น อัลบั้มนี้ของโมเดิร์นด็อกจึงเป็นสิ่งที่ไม่เคยลืมในชีวิต โมเดิร์นด็อกจึงกลายเป็นวงที่สำคัญสำหรับพวกเรามากๆ
ป๊อกเล่าถึงการเริ่มต้นในฐานะมือปืนห้องอัดว่า เริ่มจากการได้ไปเป็นแบ็กอัพให้พี่อรอรีย์ หลังจากการชักชวนจากวงพอส ซึ่งวงพอสทำชุดที่ 2 ให้พี่อรอรีย์ เมื่อทำเสร็จแล้วพวกเขาพยายามหานักดนตรีมาเล่นแบ็กอัพให้ พี่นร วงพอสจึงได้จัดการออดิชันนักดนตรีจากมหาวิทยาลัย และพี่อ๊อดเลือกป๊อก จากนั้นก็ได้มือกลองที่มีฝีมือดี คือเคน ซีล

หลังจากนั้นป๊อกก็ได้เข้าไปซ้อมกับพี่อรอรีย์ ซึ่งในตอนนั้นวงเบเกอรี่มีห้องซ้อมที่สยาม เราซ้อมเพลงหนักๆ กันมาก เมื่อซ้อมเสร็จแล้วก็ลงมาด้านล่าง พี่คนหนึ่งเดินมาถามว่า ป๊อก-เคน ว่างไหม พวกเราบอกว่าว่าง เขาจึงให้เราไปเข้าไปห้องอัดให้กับวงนีซ (niece)
การเป็นมือปืนห้องอัดคือการเล่นดนตรีให้มีความเป็นต้นฉบับ รักษาความเนี๊ยบ และสัมผัสแรกของเพลง รวมถึงดีไซน์ของเพลง แต่เมื่อมาเล่นสดมันจะมีการแสดงออกที่เข้ามาเพิ่ม ซึ่งการเอนเตอร์เทนจะเข้ามามีบทบาท ทำให้มันแตกต่างกันเล็กน้อย ในสมัยก่อนยังไม่มีโปรแกรมช่วย แต่ถึงจะมีโปรแกรมในปัจจุบัน ความเป็นธรรมชาติของนักดนตรีในการเล่นยังคงสำคัญเสมอ

แทร็กที่ 3 'You Are The Universe' ของ The Brand New Heavies เพลงนี้เต็มไปด้วยความทรงจำในช่วงเวลามหาวิทยาลัย เราเริ่มต้นเล่นดนตรีกลางคืนกับเพื่อนๆ ตอนนั้นเองที่เป๊ก ซีล มาร่วมร้องเพลงด้วย ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เราฝันถึงการสร้างวงดนตรีใหญ่ๆ แบบวง Soul และเพลงนี้ก็เป็นหนึ่งในเพลงสนุกที่ทำให้เราจดจำช่วงเวลาดังกล่าวได้เป็นอย่างดี
เมื่อถามป๊อกเกี่ยวกับอัลบั้มแรกของวง เขาบอกว่าในตอนแรกมันสนุกและเต็มไปด้วยการผสมผสานที่ดี แต่พอทำไปเรื่อยๆ ทุกคนเริ่มมีความเข้มข้นในการสร้างสรรค์เพลงของตัวเอง ความยากลำบากคือการคุยกันและบางครั้งก็ทะเลาะกัน แต่ทุกคนก็ยอมให้ความสำคัญกับการสร้างสรรค์เพลงมากกว่าบุคคล เพื่อให้เพลงทุกเพลงออกมาดีที่สุด
แทร็กที่ 4 'Positivity' ของ Incognito เป็นเพลงที่เราชอบมากจากอัลบั้มหนึ่งของวง เพลงนี้ฟังง่ายและเต็มไปด้วยความเพลิดเพลิน เข้ากับบรรยากาศในร้านกลางคืนที่มีการแสดงแซ็กโซโฟน ซึ่งเมื่อเรานึกถึงเพลงนี้ก็ทำให้เราอยากรวมตัวกับเพื่อนๆ มาเล่นเพลงนี้ด้วยกัน เพราะไลน์เบสของมันโดดเด่นและสนุกมาก

แทร็กที่ 5 'หลับตา' ของ ชรัส เฟื่องอารมย์ เป็นเพลงที่มีเนื้อหาลึกซึ้งและเต็มไปด้วยความอ่อนไหว แม้ว่าผมจะไม่ค่อยได้สัมผัสกับเรื่องเศร้า แต่เมื่อได้ฟังเพลงนี้ในงานศพของเพื่อนนักดนตรี น้ำตาก็ไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว เพลงนี้ทำให้เรารู้สึกถึงการจากไปของคนที่เรารัก และคำร้องที่ใช้ยังคงเป็นคำที่เข้าใจง่ายและลึกซึ้ง ทำให้เพลงนี้มีอารมณ์ดราม่าอย่างแท้จริง
เราทำวงดนตรีมาแล้วกว่า 25-26 ปี และวง Zeal ก็ทำมา 20 กว่าปี ถามว่าเคยคิดจะหยุดทำมั้ย ก็เคยมีบ้าง เพราะบางครั้งก็มีกำลังเบื่อ แต่พอคิดให้ดีแล้วก็รู้สึกว่าไม่สามารถหยุดได้ เพราะถ้าไม่ทำดนตรีแล้วจะทำอะไรล่ะ? เราได้ทุ่มเทกับมันมาตลอด และมันคือสิ่งที่เราประสบความสำเร็จมากที่สุดในชีวิต ถึงแม้ว่าจะมีความท้อแท้ ความเบื่อหน่าย หรือการทะเลาะกันบ้าง แต่สุดท้ายแล้วเราก็ต้องมาคุยกัน ปรับตัวกัน การปรับตัวนี้มันคือคำตอบที่ดีที่สุด แต่บางครั้งอาจต้องใช้เวลาห่างกันสักหน่อย ถ้ามาคุยกันตอนที่อารมณ์ร้อนๆ อาจทำให้ทุกอย่างพังไปเลยก็ได้
ถ้าถามว่าอนาคตของวง Zeal คืออะไร สำหรับเราแล้ว คอนเสิร์ตใหญ่ครั้งนั้นถือเป็นจุดสูงสุดและยากที่จะหาสิ่งอื่นมาแทนที่ได้ วงดนตรีทุกวงอยากมีคอนเสิร์ตใหญ่ของตัวเองในรูปแบบที่แตกต่างออกไป การได้จัดคอนเสิร์ตใหญ่และนำเสนอการแสดงให้กับแฟนเพลงที่มาชม มันเป็นความฝันที่เราทุกคนอยากจะทำให้ได้
อย่าลืมติดตามรายการ 5TRACKS 5 เพลง 5 เรื่องราว ที่ออกอากาศทุกวันเสาร์ เวลา 1 ทุ่มตรง ทางช่องยูทูบ PEEPZDOC


