
ในวันนี้...วันอาทิตย์ที่ 22 มกราคม 2566 ซึ่งตรงกับวันขึ้นปีใหม่ของชาวจีนหรือที่เรียกกันว่า "ชิวอิก" ถือเป็นวันแห่งความเป็นมงคลที่สำคัญ เมื่อทุกคนตื่นมาพร้อมด้วยความสดใสและตั้งใจที่จะทำความดีและใช้ชีวิตอย่างมีความสุข
ในฐานะคนไทยเชื้อสายจีน หัวหน้าทีมซอกแซกขออธิษฐานให้ทุกท่านไม่ว่าจากเชื้อสายใด ได้พบกับความสุขและความเจริญขอให้ “ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้” ตลอดทั้งปีเถาะหรือปีของกระต่ายที่กำลังจะมาถึง และขอให้ทุกๆปีในอนาคตนำพาความสุขและความโชคดีมาสู่ทุกท่านเสมอ
สำหรับท่านผู้อ่านที่ติดตามคอลัมน์นี้มานานคงจะทราบดีว่า หัวหน้าทีมซอกแซกซึ่งเป็นคนของจังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งเป็นจังหวัดที่จัดงานตรุษจีนได้อย่างยิ่งใหญ่ที่สุดของประเทศและจัดงานนี้อย่างต่อเนื่องมาหลายร้อยปี ได้จัดเต็มพื้นที่ในคอลัมน์นี้ทุกปีเพื่อบอกเล่าถึงความสำคัญของงานตรุษจีนที่นครสวรรค์
นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2516 ถึง พ.ศ. 2566 ซึ่งเป็นเวลา 50 ปี หัวหน้าทีมซอกแซกได้เขียนถึงงานตรุษจีนของนครสวรรค์ถึง 49 ครั้ง และในครั้งนี้จะเป็นครั้งที่ 50 ในปีนี้ ซึ่งหมายถึงเกือบครึ่งหนึ่งของระยะเวลา “107 ปี” ที่นครสวรรค์จัดงานตรุษจีนและพิธีแห่เจ้าพ่อเจ้าแม่ให้มีความยิ่งใหญ่
ในปีนี้ “ปีเถาะ” พ.ศ. 2566 ซึ่งเป็นปีที่ทีมงานซอกแซกครบ 50 ปีในการเขียนเกี่ยวกับงานตรุษจีนพอดิบพอดี ขอเริ่มต้นเล่าถึงประเพณี “แห่เจ้าพ่อเจ้าแม่” ของชาวปากน้ำโพที่เริ่มต้นในปี พ.ศ. 2459 หลังจากที่เกิดการระบาดของโรคห่าในประเทศไทย ซึ่งทำให้ชาวนครสวรรค์ล้มตายไปมากในช่วงแรกเนื่องจากการขาดแคลนยารักษาในยุคนั้น
แต่ด้วยความศรัทธาในองค์เจ้าพ่อเจ้าแม่ที่ประทับอยู่ ณ ศาลเจ้าบริเวณ “แควใหญ่” ซึ่งเป็นจุดกำเนิดของแม่น้ำเจ้าพระยา ชาวบ้านจึงมาบนบานขอพรจากเจ้าพ่อเจ้าแม่ให้ช่วยปกป้องคุ้มครองชีวิต และใช้ฮู้หรือยันต์ต่างๆ แปะตามตัวเพื่อป้องกันตัว บางคนก็นำไปต้มน้ำร้อนเป็นยารักษาโรค โรคห่าที่เคยรุนแรงจึงค่อยๆ เบาบางลงจนสงบไปในที่สุด
ชาวปากน้ำโพในปีนั้นจึงมีความคิดที่จะจัดงานแห่เพื่อเฉลิมฉลองเป็นการขอบคุณและขอคุ้มครองต่อไป โดยจะอัญเชิญเจ้าพ่อเจ้าแม่จากศาลเจ้ามาสู่ท้องตลาดปากน้ำโพ เพื่อให้ครัวเรือนต่างๆ สามารถตั้งโต๊ะไหว้เจ้าพ่อเจ้าแม่หน้าบ้านได้อย่างทั่วถึง
จากนั้นเป็นจุดเริ่มต้นของประเพณีแห่เจ้า ซึ่งชุมชนชาวจีนในปากน้ำโพ เช่น แต้จิ๋ว, ไหหลำ, กวางตุ้ง และจีนแคะ ได้ร่วมมือกันจัดงานอย่างพร้อมเพรียงมาตลอดจนถึงปัจจุบัน
ภายในขบวนแห่มีทั้งขบวนสิงโต มังกร ขบวนอัญเชิญนางฟ้าเทพยดา ขบวนแห่เจ้าพ่อเจ้าแม่กวนอิม รวมถึงขบวนของนักรบจากเขาเหลียงซาน หรือที่เรียกว่า เอ็งกอพะบู้ ฯลฯ
ต่อมาได้มีการเพิ่มขบวนมังกรทอง ซึ่งเป็นการปรากฏตัวครั้งแรกของมังกรทองในประเทศไทย ที่ปากน้ำโพจนกลายเป็นที่รู้จักกันในวงกว้างว่า “มังกรทองนครสวรรค์” หากต้องการเห็นมังกรทองของแท้ต้องไปที่ปากน้ำโพเท่านั้น
แต่เดิมการแห่เจ้าพ่อเจ้าแม่จัดขึ้นในช่วงกลางวัน ตั้งแต่เช้าจนถึงเย็นในวันชิวสี่ ซึ่งเป็นวันขึ้นปีใหม่ของชาวจีน แต่ในปัจจุบันได้เพิ่มการแห่ในช่วงกลางคืนของวันชิวซา หรือวันปีใหม่วันที่ 3 เพื่อเพิ่มความสนุกสนานด้วยแสง สี เสียง และการแสดงเทคโนโลยีใหม่ๆ
ในปี 2566 การจัดงานตรุษจีนนครสวรรค์ยังคงรักษารูปแบบเดิมไว้ แต่ได้เพิ่มเติมความทันสมัยให้มากขึ้น รวมถึงการประดับตกแต่งโคมไฟในงานให้สวยงามยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ กระทรวงวัฒนธรรมยังได้ร่วมสนับสนุนการจัดงาน “อารยธรรมแห่งสายน้ำ วัฒนธรรมไทยจีน สานสายใยชาติพันธุ์” ซึ่งจัดขึ้นที่หาดทรายต้นแม่น้ำเจ้าพระยาและอาคาร “พาสาน” ที่บริเวณสามเหลี่ยมที่แม่น้ำสองสาย รวมทั้งแม่น้ำเจ้าพระยาที่เกิดจากการรวมแม่น้ำปิงและแม่น้ำน่าน
งานของกระทรวงวัฒนธรรมนี้ได้เสร็จสิ้นไปเมื่อวันศุกร์ที่ 20 มกราคม และส่งมอบต่อให้กับงานตรุษจีนดั้งเดิมที่ปากน้ำโพเดินหน้าต่อไปจนถึงวันที่ 26 มกราคม
ภายใต้คำขวัญที่ว่า “สืบสานพลังแห่งศรัทธา รักษาประเพณี 107 ปี ตรุษจีนปากน้ำโพ” และแนวคิดหรือธีม “มังกรเบิกฟ้า บุปผาเบ่งบาน” จึงได้นำเสนอทั้งขบวนมังกรและสิงโตอันยิ่งใหญ่ พร้อมกับความงดงามของขบวนเทพธิดาและการแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านอันหลากหลาย
สำหรับขบวนแห่เจ้าพ่อเจ้าแม่ในปีนี้ จะเริ่มขึ้นในคืนวันอังคารที่ 24 มกราคม ซึ่งเป็นคืน “ชิวซา” ตามประเพณีเช่นทุกปี
ในวันถัดมา “ชิวสี่” หรือวันที่ 25 มกราคม 2566 จะมีขบวนแห่ในช่วงกลางวันที่ยาวและยิ่งใหญ่กว่าทุกปี พร้อมกับการอัญเชิญศาลเจ้าทุกแห่งเข้าสู่ตลาดปากน้ำโพ ให้ผู้คนได้กราบไหว้ขอพรอย่างใกล้ชิด
ท่านผู้อ่านที่สนใจไปชมขบวนแห่สามารถไปในวันใดก็ได้ตามสะดวก ส่วนผู้ที่มาจากต่างประเทศในแต่ละปีก็มักจะมาร่วมงานหลายหมื่นคน ปีนี้อาจจะมากถึงแสนคน ขึ้นอยู่กับการจัดการของบริษัททัวร์ต่างๆ
ขอฝากบริษัททัวร์ที่จัดทริปไว้ (ที่คงไม่ใช่ทัวร์ศูนย์เหรียญ) และขอขอบคุณเว็บไซต์ www.paknamphocny.com สำหรับภาพประกอบที่สวยงาม หากท่านดูภาพแล้วอย่าลืมไปชมของจริง เพราะมันสวยกว่าที่เห็นในภาพหลายเท่า...ขอบอก!
“ซูม”