การเรียนรู้วิธีการเป็นนักท่องเที่ยวที่มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง (การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน) ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมและสถานที่ท่องเที่ยวให้ยั่งยืนและสวยงาม แต่ยังเป็นการปลูกฝังจิตสำนึกในการรักธรรมชาติ รวมทั้งส่งเสริมให้ตัวเองเป็นนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพมากขึ้น สร้างรูปแบบการท่องเที่ยวใหม่ที่ช่วยพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวให้ดีขึ้นได้
โลกของเรากำลังเผชิญกับวิกฤตสิ่งแวดล้อมจากการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศที่มีความรุนแรงมากขึ้น สภาพอากาศที่ร้อนขึ้นและความแปรปรวนของภูมิอากาศส่งผลกระทบต่อกระบวนการฟื้นฟูและการเจริญเติบโตของสิ่งแวดล้อม ซึ่งยังส่งผลกระทบไปยังทุกอุตสาหกรรม รวมถึงอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่ต้องเผชิญกับผลกระทบนี้ด้วยเช่นกัน
ในช่วงเวลานี้หลายองค์กรเริ่มตระหนักถึงผลกระทบจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และได้เริ่มต้นโครงการ Net Zero ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงปารีส ภายใต้กรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (United Nations Framework Convention on Climate Change - UNFCCC) ซึ่งมีสมาชิกจาก 197 ประเทศ รวมถึงประเทศไทยที่ได้เข้าร่วมตั้งแต่ปี พ.ศ. 2537 โดยประเทศสมาชิกทุกประเทศได้ตกลงร่วมกันในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพื่อลดคาร์บอนไดออกไซด์ลง 50% ภายในปี 2028 และให้เหลือศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2050
อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเป็นอีกหนึ่งอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศในด้านความยั่งยืนของแหล่งท่องเที่ยว ทั้งทางธรรมชาติและวัฒนธรรม นอกจากจะมีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากนักท่องเที่ยวจำนวนมากแล้ว แหล่งท่องเที่ยวยังต้องรับการกระทำหนักจนเกิดความเสียหาย วัฒนธรรมถูกทำลายไปจนสูญเสียความเป็นเอกลักษณ์ หากไม่มีการตระหนักรู้และพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน โลกของเราจะสูญเสียแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญและความงดงามในอนาคต
การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนคืออะไร?
การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนหมายถึงการเดินทางที่มุ่งมั่นเพื่อสร้างผลกระทบที่ดีต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และเศรษฐกิจในพื้นที่ที่นักท่องเที่ยวไปเยือน โดยมุ่งมั่นที่จะรักษาความงามของสถานที่และพัฒนาเศรษฐกิจรอบข้าง พร้อมกับการอนุรักษ์วัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่นั้นให้คงอยู่และพัฒนาในทิศทางที่ดี
การท่องเที่ยวที่ยั่งยืนควรส่งผลกระทบทางลบต่อสถานที่ท่องเที่ยวน้อยที่สุด นักท่องเที่ยวควรมีส่วนร่วมในการรักษาและพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวนั้นๆ โดยร่วมกันปกป้องสิ่งแวดล้อม พัฒนาสถานที่ และดูแลความเป็นอยู่ของผู้คนรวมถึงองค์ประกอบต่างๆ ที่ทำให้แหล่งท่องเที่ยวยังคงความเป็นอยู่ได้ต่อไป
การท่องเที่ยวยั่งยืนสามารถทำได้จริงหรือไม่?
แม้ว่ามีหลายวิธีในการท่องเที่ยวอย่างมีความรับผิดชอบ แต่การท่องเที่ยวและแหล่งท่องเที่ยวไม่สามารถคงอยู่ได้อย่างยั่งยืนโดยสมบูรณ์ในทุกด้าน ทุกอุตสาหกรรมล้วนสร้างผลกระทบทั้งสิ้น การท่องเที่ยวเองก็ไม่ได้แตกต่างออกไป
นักเดินทางสามารถมีส่วนช่วยในการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวให้ยั่งยืนได้มากขึ้น โดยการเดินทางด้วยความมีสติ เพื่อให้มั่นใจว่าสิ่งแวดล้อมและชุมชนท้องถิ่นจะได้รับประโยชน์และสามารถเติบโตอย่างยั่งยืน
ทุกการเดินทางมีกลวิธีหลายอย่างที่สามารถช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และทำให้การท่องเที่ยวยั่งยืนได้มากขึ้น โดยการสร้างจิตสำนึกในการเดินทางอย่างมีความรับผิดชอบ และเข้าใจถึงความสำคัญของการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ทำให้เป็นส่วนหนึ่งในนิสัยของนักท่องเที่ยว
วิธีการเดินทางท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน และมีความรับผิดชอบ ทำอย่างไร
- วางแผนการเดินทางอย่างรับผิดชอบ
การตระหนักถึงวิธีการเดินทางเล็กน้อยก็สามารถทำให้เป็นนักท่องเที่ยวที่มีความรับผิดชอบได้ เช่น การใช้จักรยานหรือการเดินแทนการขับรถยนต์ในระยะใกล้ๆ การเดินทางเป็นกลุ่มด้วยรถยนต์หนึ่งคัน หรือการเลือกเส้นทางท่องเที่ยวที่ไม่กระทบกับธรรมชาติ เช่น การเดินไปยังแหล่งท่องเที่ยวที่มีระบบนิเวศที่ละเอียดอ่อน การเลือกไปยังแหล่งท่องเที่ยวชุมชนแทนแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม การแยกขยะ หรือการเข้าร่วมกิจกรรมที่ช่วยพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวให้ยั่งยืน

- เลือกสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความยั่งยืนและรักษ์โลก
- ออกไปสำรวจสถานที่ใหม่ๆ และท่องเที่ยวในช่วงนอกฤดูกาล
- เดินทางช้าลงเพื่อประสบการณ์ท่องเที่ยวที่ยั่งยืนมากขึ้น

- อย่าลืมปิดไฟและถอดปลั๊กอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เมื่อไม่ใช้งาน

- ลดระยะเวลาในการอาบน้ำ ซักผ้ารวมกัน ใช้ผ้าปูที่นอนและผ้าเช็ดตัวซ้ำหากไม่สกปรก
การท่องเที่ยวมักมาพร้อมกับการมองหาความสะดวกสบายและความสะอาด แต่การเลือกที่จะอาบน้ำให้เร็วขึ้น ซักผ้ารวมกัน และใช้ผ้าปูที่นอนหรือผ้าเช็ดตัวซ้ำหากไม่ได้สกปรกมาก จะช่วยลดการใช้พลังงานทั้งไฟฟ้าและการปล่อยคาร์บอนที่เกิดจากการใช้งานเหล่านี้
- หลีกเลี่ยงการไปยังสถานที่ท่องเที่ยวที่มีระบบนิเวศที่เปราะบางและยังไม่ได้รับการพัฒนาเต็มที่
การค้นพบแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ มักเป็นสิ่งที่นักท่องเที่ยวอยากแชร์ให้โลกได้เห็น แต่ควรศึกษาข้อมูลของสถานที่นั้นๆ ให้ดีก่อน โดยเฉพาะหากพื้นที่นั้นมีระบบนิเวศที่ยังไม่มั่นคงและไม่สามารถรองรับนักท่องเที่ยวจำนวนมากได้ หากเราพาผู้คนมาเที่ยวที่นี่อาจทำให้เกิดผลกระทบได้ เช่น สถานที่อาจฟื้นฟูได้ยากและอาจได้รับความเสียหายอย่างรวดเร็ว
การท่องเที่ยวที่ยั่งยืนสามารถทำได้หลายวิธีมากกว่า 7 หัวข้อที่ได้กล่าวถึงก่อนหน้านี้ วิธีการอาจแตกต่างกันไปตามสถานที่ต่างๆ แต่สิ่งสำคัญคือนักท่องเที่ยวจะต้องคำนึงถึงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม สังคม ชุมชน และวัฒนธรรมในแต่ละสถานที่เสมอ หากทำเช่นนี้ ก็จะสามารถมีส่วนร่วมในการท่องเที่ยวที่ยั่งยืนได้ หากทุกคนในโลกนำหลักการนี้ไปปฏิบัติ ก็จะเป็นพฤติกรรมที่ติดตัวไปทุกที่ เชื่อได้ว่าโลกของเราจะบรรลุเป้าหมาย Net Zero ตามแผนที่ตั้งไว้ในปี 2050 อย่างแน่นอน

ข้อดีของการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน
- มีผลกระทบต่อระบบนิเวศน้อยกว่ากิจกรรมท่องเที่ยวอื่นๆ
- ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ท่องเที่ยวได้รับการคุ้มครอง
- สามารถลดการปล่อยก๊าซและรักษาอากาศให้สะอาด
- ช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตและรายได้ให้กับชุมชนท้องถิ่น
- อนุรักษ์วัฒนธรรมท้องถิ่นให้คงอยู่ได้
- มอบประสบการณ์การท่องเที่ยวที่มีความหมายและลึกซึ้งมากขึ้น
- ช่วยเพิ่มคุณภาพการเดินทางและประสิทธิภาพในการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยว
ข้อมูล : gooverseas