วิตามินอี เป็นสารอาหารสำคัญที่ละลายในไขมัน มีความจำเป็นต่อร่างกาย ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน และด้วยคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ ทำให้วิตามินอีถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายในผลิตภัณฑ์เสริมความงาม
ประโยชน์และข้อดีของวิตามินอีมีอะไรบ้าง?
วิตามินอี (Vitamin E) มีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยชะลอการเสื่อมสภาพของเซลล์ในร่างกาย ป้องกันการอุดตันของหลอดเลือด และลดความเสี่ยงการแตกของเม็ดเลือดแดง
นอกจากประโยชน์ต่อสุขภาพแล้ว วิตามินอียังอุดมไปด้วย "สารต้านอนุมูลอิสระ
ในปัจจุบัน วิตามิน E ถูกสกัดเพื่อนำมาใช้ในทางการแพทย์ ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมในรูปแบบแคปซูล และเป็นส่วนประกอบสำคัญในเครื่องสำอางเพื่อบำรุงผิว ช่วยลดริ้วรอย ลดการอักเสบของผิวหนัง หรือแม้แต่ผสมในครีมกันแดดเพื่อปกป้องผิว นอกจากจะเป็นวิตามินที่จำเป็นต่อร่างกายแล้ว ยังมีคุณสมบัติช่วยเสริมความงามและบำรุงผิวให้ดูสุขภาพดีอีกด้วย

ทานเพื่อสุขภาพ! วิตามินอีพบได้ในอาหารธรรมชาติชนิดใดบ้าง?
หากไม่ต้องการทาน วิตามินอี ในรูปแบบแคปซูลที่เป็นอาหารเสริม วิตามินอียังสามารถพบได้ในอาหารธรรมชาติที่เราทานกันเป็นประจำ เช่น ข้าวกล้อง ไข่ ถั่วเหลือง งา และผักใบเขียว
หากต้องการทานผักและผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินอี ควรทานแบบสดๆ จะได้ประโยชน์สูงสุด เนื่องจากความร้อนจากการปรุงอาหารและความเย็นจากการแช่แข็งอาจทำลายวิตามินอี ทำให้ปริมาณวิตามินลดลง

ควรทานวิตามินอีเวลาไหนดีที่สุด?
เนื่องจาก วิตามินอี ละลายได้ดีในไขมัน จึงควรรับประทานทันทีหลังมื้ออาหาร ทั้งมื้อเช้าและมื้อเย็น เพื่อให้ร่างกายดูดซึมได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม การรับประทานในปริมาณที่มากเกินไปอาจทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น ปวดศีรษะ ตาพร่า อาเจียน ปวดท้อง หรือท้องเสีย
เพื่อความปลอดภัย ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรผู้เชี่ยวชาญก่อนรับประทานเสมอ เพื่อให้ร่างกายได้รับ วิตามินอี ในปริมาณที่เหมาะสมและไม่ก่อให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพ
ที่มา : คลังข้อมูลยา คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล