การมีรูปร่างที่ดูดีและสมส่วนเป็นความปรารถนาของสาวๆ หลายคน ด้วยเหตุนี้ เมื่อใครที่มีน้ำหนักตัวหรือไขมันส่วนเกิน มักจะหาวิธีต่างๆ เพื่อลดน้ำหนัก เช่น การอดอาหารหรือการออกกำลังกาย แต่สำหรับบางคน การลดน้ำหนักไปไกลเกินไปกลับกลายเป็นปัญหาสุขภาพ ทำให้เกิดอันตรายต่อระบบต่างๆ ของร่างกาย ซึ่งเป็นที่มาของ “โรคคลั่งผอม (Anorexia nervosa)”

โรคคลั่งผอม (Anorexia nervosa) คืออะไร
เป็นโรคที่ผู้ป่วยมักมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับรูปร่างและน้ำหนักของตนเองจนเกินไป สถานการณ์ที่เกิดขึ้นคือ คนที่รูปร่างปกติหรือผอมแล้ว แต่ยังมองว่าตนเองยังอ้วนอยู่ ทำให้พวกเขาพยายามลดน้ำหนักต่อไปจนกระทั่งร่างกายอ่อนแอลง ไม่มีพลัง และเริ่มมีผลกระทบต่อระบบต่างๆ ของร่างกาย โดยอาการที่พบได้บ่อยคือการขาดประจำเดือน ซึ่งเกิดจากความผิดปกติของฮอร์โมน
เมื่อการลดน้ำหนักเกิดขึ้นเกินขอบเขต จะทำให้เกิดผลเสียต่อร่างกายทุกระบบ เช่น ความดันโลหิตต่ำลง หัวใจเต้นช้าลง เกลือแร่ผิดปกติในร่างกาย สมองเกิดปัญหาความคิดและความจำลดลง มวลกระดูกลดลง และเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคกระดูกพรุนเมื่ออายุมากขึ้น
ในอดีต อัตราการตายจากโรคคลั่งผอมสูงถึง 5% แต่ปัจจุบันลดลงเนื่องจากความเข้าใจเกี่ยวกับโรคนี้มากขึ้น คาเรน คาร์เพนเทอร์ นักร้องจากวงคาร์เพนเทอร์ ที่เสียชีวิตด้วยโรคหัวใจจากโรคคลั่งผอมในปี 1983 เป็นบุคคลสำคัญที่ทำให้โรคนี้เป็นที่รู้จักกันมากขึ้น จนทำให้การรักษาโรคนี้ได้รับการดูแลและรักษาเร็วยิ่งขึ้น ส่งผลให้จำนวนผู้เสียชีวิตลดลง

สาเหตุและปัจจัยเสี่ยง
โรคคลั่งผอมเป็นโรคที่เกิดจากการเชื่อมโยงหลายปัจจัยที่มีผลซึ่งกันและกันในลักษณะที่ซับซ้อน โดยหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญคือ @ ปัจจัยทางพันธุกรรม ซึ่งเกี่ยวข้องกับยีนบางตำแหน่งที่อาจทำให้เกิดโรคนี้ได้ พบว่า หากพี่น้องฝาแฝดที่มีไข่ใบเดียวกันคนหนึ่งเป็นโรคนี้ อีกคนก็มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคนี้สูงกว่าพี่น้องฝาแฝดไข่คนละใบหรือพี่น้องที่ไม่ใช่ฝาแฝด
@ ความผิดปกติของสมองและสารสื่อประสาท ซึ่งมีบทบาทในการควบคุมการกิน การหิว และความรู้สึกอิ่ม มีการทำงานที่ผิดปกติไป ซึ่งอาจเกิดจากการรวมกันของยีนและปัจจัยแวดล้อมต่างๆ
@ ปัจจัยทางด้านจิตใจ ผู้ป่วยโรคคลั่งผอมมักมีความคิดว่าตนเองยังไม่ดีพอ และมีแนวโน้มที่จะต้องทำทุกสิ่งให้สมบูรณ์แบบ (perfectionism) เพื่อตอบสนองความรู้สึกไม่พอใจในตัวเอง เมื่อรูปร่างของตนยังไม่พอใจก็จะพยายามลดน้ำหนักให้มากขึ้นเพื่อให้รูปร่างสมบูรณ์แบบที่สุด โดยเมื่อสามารถควบคุมน้ำหนักและรูปร่างได้ตามที่ต้องการ ก็จะรู้สึกภาคภูมิใจในความสำเร็จนั้น และมักจะพยายามลดน้ำหนักต่อไปแม้ว่าจะผอมเกินไปแล้ว
@ ปัจจัยด้านครอบครัว ก็มีบทบาทสำคัญในการเกิดโรคนี้เช่นกัน โดยผู้ป่วยโรคคลั่งผอมมักเติบโตในครอบครัวที่พ่อแม่มีการควบคุมลูกมากเกินไป (overcontrol) หรือปกป้องลูกมากเกินไป (overprotection) หรือในครอบครัวที่ไม่มีขอบเขตความเป็นส่วนตัว (overinvolvement) ซึ่งอาจส่งผลให้การพัฒนาความเป็นตัวตนของเด็กบกพร่อง
@ ปัจจัยทางด้านสังคมและวัฒนธรรม พบว่าในประเทศที่อยู่ในซีกโลกตะวันตก หรือประเทศที่เน้นการพัฒนาในด้านอุตสาหกรรมและความเจริญทางวัตถุ มักจะมีผู้ป่วยโรคคลั่งผอมมากกว่าประเทศในซีกโลกตะวันออกหรือประเทศที่เน้นการเกษตรกรรม
ประเทศไทยได้เริ่มมีการพัฒนาตามแนวทางของโลกตะวันตกมาเป็นระยะเวลาหลายปี จึงทำให้พบว่าโรคคลั่งผอมในปัจจุบันเริ่มมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นเช่นเดียวกัน

นอกจากนี้ การเสพติดโซเชียลมีเดียยังเป็นอีกปัจจัยที่สำคัญ เพราะส่วนใหญ่เน็ตไอดอลมักจะมีรูปร่างผอมกว่าปกติ แต่ผู้ใช้สื่อกลับยึดเอาความผิดปกตินี้เป็นมาตรฐาน ทำให้เกิดการประเมินตนเองว่าอ้วนเกินไปและพยายามลดน้ำหนักจนกลายเป็นโรคคลั่งผอมมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มคนที่ทำกิจกรรมที่ต้องเน้นรูปร่าง เช่น นักบัลเลต์ นักยิมนาสติก หรือดารานักแสดง ก็มีความเสี่ยงสูงกว่าคนทั่วไป
@ โรคคลั่งผอมมักจะเริ่มเกิดขึ้นในช่วงวัยรุ่น ซึ่งวัยรุ่นมักจะมีความกังวลเกี่ยวกับรูปร่างเป็นปกติ ทำให้เกิดความเครียด โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกับรูปร่างของเพื่อนหรือเน็ตไอดอล บางครั้งอาจมีการกดดันจากการถูกเพื่อนล้อเรื่องความอ้วน ทำให้เกิดความอยากลดน้ำหนักและผอมลงไปเรื่อยๆ จนกลายเป็นโรคคลั่งผอมได้
สาเหตุของโรคคลั่งผอมมักเกิดจากหลายปัจจัยที่รวมกัน ซึ่งส่งผลให้บุคคลหนึ่งกลายเป็นโรคนี้ โดยในแต่ละคนอาจมีปัจจัยที่แตกต่างกันไป
สัปดาห์หน้ามีข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับ “โรคคลั่งผอม (Anorexia nervosa)” รอติดตามกันนะครับ
-------------------------------------------------
รศ. นพ.ศิริไชย หงษ์สงวนศรี อาจารย์ประจำภาควิชาจิตเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล