“หนุมาน” คือพญาวานรผู้เกรียงไกร ซึ่งเป็นทหารคู่ใจของพระราม มีผิวขาวสะอาด ใส่ตุ้มหูเพชร เขี้ยวแก้ว และสามารถพ่นดาวเดือนได้ หนุมานเป็นบุตรของนางสวาหะกับพระพาย เทพแห่งสายลม จึงได้ชื่อว่า “วายุบุตร” ส่วนชื่อหนุมานนั้นหมายถึงผู้มีคางใหญ่และเด่นชัด
พระอิศวรทรงเห็นว่านางสวาหะ ผู้ถูกสาปโดยนางกาลอัจนาให้ยืนขาเดียวและกินลมเป็นอาหารที่เชิงเขาจักรวาล สมควรมีบุตรที่จะกลายเป็นทหารเอกของพระราม จึงให้พระพายนำพลังและอาวุธของพระองค์ไปมอบแก่นางสวาหะ เพื่อให้กำเนิดบุตรผู้เก่งกาจ
อาวุธทั้งสามได้แก่...จักรแก้วกลายเป็นศีรษะ ตรีเพชรกลายเป็นร่างกายและแขนขา ส่วนคทาเพชรกลายเป็นกระดูกสันหลังจนถึงหาง เมื่อต้องปราบศัตรู หนุมานจะชักตรีเพชรจากอกออกมา โดยมีพระพายเป็นบิดาและผู้คุ้มครอง
หนุมานถือกำเนิดอย่างพิเศษกว่าวานรทั้งหลาย โดยกระโดดออกจากปากมารดาในวันอังคาร เดือนสาม ปีขาล มีผิวขาวและร่างกายโตเท่าชายอายุ 16 ปี

ข้อมูลดังกล่าวถูกอ้างอิงมาจากแหล่งความรู้ “สำนักงานราชบัณฑิตยสภา”
“หนุมาน” ...คือ “เทพลิง” ที่ใครๆ ก็รู้ดีว่ามีพละกำลังมหาศาลและความว่องไวเป็นเลิศ สามารถเหาะเหินเดินอากาศได้อย่างอิสระ เนื่องจากมีพระบิดาคือ “พระวายุ” เทพแห่งลม... จึงอาจกล่าวได้ว่าชาติกำเนิดของหนุมานนั้นเต็มไปด้วยความลึกลับและซับซ้อน
ใน “รามเกียรติ์” หนุมานเป็นบุตรของพระพาย เทพแห่งลม กับนางสวาหะซึ่งเป็นมนุษย์ โดยพระอิศวรทรงมีบัญชาให้พระพายนำอาวุธอันทรงพลัง ได้แก่ คทาเพชร ตรีเพชร และจักรแก้ว พร้อมทั้งพลังของพระองค์ไปมอบแก่นางสวาหะ ผู้ถูกสาปให้ “อ้าปากยืนขาเดียวและกินลมเป็นอาหาร” ที่เชิงเขาจักรวาล โดยให้พระพายเป็นบิดาของหนุมาน ผู้ได้รับพลังพิเศษสามารถฟื้นคืนชีพได้เมื่อสัมผัสกับกระแสลม

ในเรื่อง “รามายณะ” ซึ่งประพันธ์โดย ฤาษีวาลมีกิ ได้กล่าวถึงกำเนิดของหนุมานว่าเป็นบุตรของวานรเพศเมียชื่ออัจนา สามีของนางคือเกสรี วานรผู้มีพละกำลังมหาศาลจนสามารถสังหารช้างได้ แต่ไม่ใช่บิดาของหนุมาน เนื่องจากนางอัจนาเดิมทีเป็นนางอัปสรผู้เลอโฉมบนสวรรค์...
แต่เธอถูกสาปให้ลงมาเกิดเป็นวานรบนโลกมนุษย์ และจะหลุดพ้นจากคำสาปได้ก็ต่อเมื่อให้กำเนิดองค์อวตารของพระอิศวร จนกระทั่งวันหนึ่งขณะที่นางอัจนากำลังสวดภาวนาขอให้พระอิศวรอวตารลงมาเกิดกับนาง ก็มีลมพัดพาขนมมาใส่ในมือของนาง
เมื่อนางอัจนากินขนมนั้นเข้าไปก็ตั้งครรภ์ และในเวลาต่อมาก็ได้ให้กำเนิด “หนุมาน”

การบูชาขอพรจาก “หนุมาน” เพื่อความเข้มแข็ง ชนะศัตรู และไม่พ่ายแพ้ต่อสิ่งใด รวมทั้งขอให้ท่านประทานพรแห่งความซื่อสัตย์จากเจ้านาย ผู้บังคับบัญชาที่รักใคร่เอ็นดู...ลูกน้อง...และบริวาร ให้มีความสามัคคีและไม่มีความเกลียดชังระหว่างกัน
บทที่ 1...“โอม ศรี หนุมาน นะมะห์”, บทที่ 2 “โอม ศรีหนุมัทเต นะมะห์”, บทที่ 3 “โอม ศรีรามะ ชยะ ชยะ รามะ”, บทที่ 4 “โอม ศรี หนุมานะ ชยะ ชยะ หนุมานะ”
บทที่ 5 “โอม อัญจาเนยายะ วิดมาเฮ มหาบัลลาเย ดีมาฮี ตันโน หนุมาน ประโจทะยาต”, บทที่ 6 “โอม อันจานี สุทายะชา วิดมาเฮ วายุ ปุตรายะชา ดีมาฮี ตันโน มรุทถี ประพโจทยาต”

สำหรับมนต์คาถาบูชาหนุมานตามตำราไทยโดยย่อนั้นมีบันทึกไว้ว่า “นะโมพุทธายะ นะมะพะทะ จะภะกะสะ หะนุมานะ” ซึ่งเป็นคาถาหัวใจหนุมาน “หนุมานะนะสังสะตัง”
คาถาปลุกกำกับหนุมาน “นะมัง เพลิง โมมังปาก กระบอก ยะมิให้ออก อุทธัง โธอุด ธังอัดอะสัง วิสุโรปุสะพุพะ มะอะอุ โอมยะพุทธา ทะโยสตรี สตรี นิสังโห”
อีกความเชื่อหนึ่งที่สำคัญคือ... “หนุมาน” ถือเป็นตัวแทนของชายหนุ่มรูปงาม...ที่มีนิสัยเจ้าชู้และมีภรรยาหลายคน...ตามตำนานและเรื่องเล่าต่างๆ เช่น นางสุพรรณมัจฉา
ทั้งคู่มีบุตรร่วมกันหนึ่งคนคือ “มัจฉานุ”...ซึ่งเป็นลูกผสมระหว่างลิงเผือกกับปลา มีลักษณะเด่นคือร่างกายเป็นลิงเผือกเหมือนหนุมาน แต่หางเป็นปลา
อีกคนคือ “นางเบญจกาย” บุตรีของพญาพิเภก ทั้งคู่มีความสัมพันธ์รักกันในช่วงที่นางเบญจกายแปลงเป็นศพของนางสีดาและลอยทวนน้ำมา เพื่อหลอกล่อให้พระรามเสียพระทัย แต่ภายหลังถูกจับได้ พระรามจึงสั่งให้หนุมานพานางเบญจกายกลับเมือง ทั้งคู่มีบุตรร่วมกันคือ “อสุรผัด”

“หนุมาน”...เป็นลิงเผือกที่มีสีขาวเป็นสีประจำกาย เมื่อแสดงฤทธิ์จะมี 4 หน้า 8 มือ นอกจากนี้ยังมีลักษณะพิเศษอื่นๆ เช่น สวมตุ้มหูเพชร มีขนเพชร มีเขี้ยวแก้ว และสามารถหาวเป็นดาวเป็นเดือนได้
ดังที่บทกวีได้กล่าวไว้ว่า...“ลอยอยู่เบื้องหน้าพระชนนี รัศมีส่องสว่างกลางเวหา ทรงกุณฑลเพชรอันงดงาม ฟันแก้ววาววับดั่งดวงดาว ท้องฟ้าเป็นประกายด้วยดวงจันทร์และดวงดาว แปดกรสี่หน้าทรงพลัง แสดงฤทธิ์อันเกรียงไกร แล้วเสด็จลงมาไหว้พระมารดร”
เทพหนุมานนั้นมีความพิเศษมากมายเกินจะนับ เป็นลิงเผือกผู้ทรงพลังมหาศาล หากจะกล่าวถึงการแสดงฤทธิ์ของท่าน ก็มีหลายประการ เช่น การขยายร่างให้ใหญ่โต การยืดหางให้ยาวได้อย่างน่าอัศจรรย์
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือหนุมานนั้นเป็นอมตะ...ไม่มีวันตาย
เมื่อใดก็ตามที่เผชิญอันตรายถึงชีวิต เพียงแค่มีลมพัดผ่านมา “หนุมาน” ก็สามารถฟื้นคืนชีพขึ้นมาใหม่ได้ หลุดพ้นจากความตายได้อย่างน่าประหลาดใจ

ศรัทธาและความเชื่อของคนจำนวนมากที่มีต่อ “หนุมาน” นั้น ส่วนใหญ่แล้วอาจเป็นเรื่องของความคงกระพันชาตรี การต่อสู้ที่แข็งแกร่ง...รวดเร็วราวกับสายลม พร้อมทั้งความหวังที่จะประสบความสำเร็จในทุกสิ่งดั่งชัยชนะของหนุมานเทพวานรผู้ไม่เคยแพ้
“ศรัทธา”...สามารถสร้างปาฏิหาริย์ได้จริงหรือไม่? ไม่ว่าคุณจะเชื่อหรือไม่เชื่อ ก็ขอให้อย่าได้...“ดูหมิ่น”.
ความรัก-ยม
คลิกเพื่ออ่านคอลัมน์ “เหนือฟ้าใต้บาดาล” เพิ่มเติม