ในอีพีของ “5TRACKS Podcast” หนุ่ม กะลา จะมาพูดถึง 5 เพลงที่มีความหมายลึกซึ้งและเต็มไปด้วยเรื่องราวจากการเดินทางในวงการดนตรีตลอด 24 ปี ตั้งแต่การประกวด Hotwave เพลงแรกของ ‘กะลา’ และเพลง 'ยาม' ที่สร้างความประทับใจ ไปจนถึงความทรงจำจากเพลงในอดีตที่เคยทำให้ใจสั่น รวมถึงช่วงเวลาที่ดีที่สุดในเส้นทางดนตรีของเขา

1. ช่วงที่ดีที่สุด - BOYdPOD / เพลงที่ทำให้ใจสั่น
เมื่อถามถึงเหตุผลที่เพลงนี้กลายเป็นแทร็กต้องห้าม หนุ่ม กะลา เล่าว่า ตอนนั้นมีช่วงเวลาที่ไม่สามารถฟังเพลงนี้ได้เลย เพราะมันทำให้รู้สึกถึงเหตุการณ์ในอดีตทุกครั้งที่ฟัง จนไม่กล้าที่จะเปิดฟังบ่อยๆ กลัวความรู้สึกจะหายไป แต่เมื่อเวลาผ่านไปหลายปี เขาก็สามารถฟังเพลงนี้ได้อีกครั้งโดยไม่รู้สึกเหมือนในครั้งนั้น
ท่อนที่ทำให้ใจสั่นที่สุดคือท่อนที่คุณอาวินัย พันธุรักษ์ ร้อง ช่วงนั้นพูดแล้วยังขนลุกเลย รู้สึกทึ่งมากที่สามารถเอาคนจากยุคก่อนมาร่วมร้องกับพี่ป๊อด ซึ่งเสียงของพี่ป๊อดก็ดีอยู่แล้ว แต่พอมีเสียงของคนในยุคนั้นมา มันทำให้เพลงนั้นฟังดูเก่าแก่ขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ ถามว่าเพลงนี้มีคนที่อยู่ในความทรงจำตลอดเวลาหรือเปล่า พี่หนุ่มบอกว่า “ไม่เลยครับ แต่มันกลับกลายเป็นว่าไม่มีใครในเพลงเลย ทำให้รู้สึกแปลกและอยากจะเข้าใจมัน”
คอนเสิร์ตใหญ่ครั้งที่ผ่านมาถือเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดช่วงหนึ่ง พอจบคอนเสิร์ตนั้น เพลงนี้เข้ามาในหัวทันที เพราะเราก็ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสจัดคอนเสิร์ตอีกเมื่อไรแล้ว ทุกอย่างในคืนนั้นมันเต็มไปด้วยความรู้สึกสุดๆ จำได้ว่าเมื่อคอนเสิร์ตจบ ถ่ายรูปกับแฟนเพลง แล้วกลับขึ้นมาที่ห้องพักเจอทีมงานที่เคยเห็นก่อนโชว์เต็มห้อง แต่ตอนนี้กลับไม่มีใครเหลือเลย ทุกคนกลับบ้านไปหมดแล้ว พอเห็นแบบนั้นก็คิดว่า “เฮ้ย ทุกอย่างผ่านไปไวมากเลย ความสุขที่ได้สัมผัสแค่ไม่กี่นาที มันก็หายไปแล้ว เหลือแค่ความทรงจำ”

2. เอื้อมไม่ถึง - ป้าง นครินทร์ / เพลงที่ฝึกเล่นกีตาร์
ย้อนกลับไปสมัย ม.4 ตอนนั้นผมเป็นนักร้องโรงเรียนและก็อยู่ในวงโยธวาทิตโรงเรียน เพื่อนๆ คิดว่าผมเล่นเครื่องดนตรีได้ก็เลยชวนเล่นกีตาร์ ทั้งๆ ที่ผมเล่นไม่เป็น แต่เพื่อนๆ ก็จะบอกว่า “เฮ้ย หนุ่ม เล่นโชว์หน่อยสิ” ตอนนั้นผมไม่กล้าเลย บอกไม่อยากโชว์ ทั้งที่จริงแล้วผมแค่เล่นไม่เป็นเท่านั้นเอง ตอนนั้นไม่เข้าใจตัวเองเลย ทำไมถึงไม่อยากโชว์ แต่เพราะผมเป็นนักร้องโรงเรียนเลยบอกว่าไม่อยากโชว์นั่นแหละ”
หลังจากเทอมแรกของ ม.4 จบลง ช่วงปิดเทอมสั้นๆ กลับเป็นเวลาที่ผมต้องเรียนรู้การเล่นกีตาร์ให้ได้ เพราะต้องมีคนที่เล่นกีตาร์อีกแล้ว ตอนนั้นเพลงที่ง่ายที่สุดก็ต้องเป็นเพลง “เอื้อมไม่ถึง” ที่มีแค่ 3 คอร์ด ถามว่าเด็กมัธยมเล่นกีตาร์เพื่อแอ็กสาวในตอนนั้น หนุ่มบอกว่า ก็ต้องมีบ้าง ของผมแอ็กแค่ตอนมีงานโรงเรียนเท่านั้น เดินลงมาก็หล่อเลย แต่นานไปคนก็ลืม พอมีเพลงพี่ป้างและเพลงบุษบา จากโมเดิร์นด็อก ก็ทำให้รู้สึกว่าดนตรีแนวนี้มันสนุก จึงเป็นจุดเริ่มต้นในการแต่งเพลงร็อก จากที่เคยแต่งแต่เพลงรัก เริ่มมีเพลงที่พูดถึงเรื่องชีวิต และพี่ป้างกับพี่ป๊อด โมเดิร์นด็อก เป็นแรงบันดาลใจให้ผม

3. ยาม - ลาบานูน / เพลงในตำนาน
จริงๆ แล้วเพลงนี้เคยถูกนำมาร้องในคอนเสิร์ต แล้วเกิดเรื่องฟ้องร้องเรื่องลิขสิทธิ์จนกลายเป็นคดีไป (ยิ้ม) โดนไปทั้งหมด 48 ที่ ถามว่าเขาตามไปทำไม ก็เพราะเขาคงว่าง (หัวเราะ) แต่ผมยังคงยืนยันว่าเพลง “ยาม” เป็นเพลงที่ดีที่สุดในชีวิตผมอีกเพลงหนึ่ง ผมเริ่มจากการเล่นตั้งแต่งานเล็กๆ ไปจนถึงคอนเสิร์ตใหญ่ๆ ไม่ว่าจะเป็นงานชาวบ้านหรือในเมืองหลวง เพลงนี้ถูกพิสูจน์ว่าอยู่ได้ในทุกๆ สังคม
แต่มันก็เป็นเพลงที่ลืมไม่ลงจริงๆ อย่างที่บอกว่าโดนฟ้องร้อง 48 ที่ จนต้องไปรายงานตัวที่สถานีตำรวจทั่วประเทศตอนทัวร์คอนเสิร์ต เล่นเสร็จตี 3 ตี 5 ต้องรีบไปสนามบินเพื่อบินไปรายงานตัวเสร็จแล้วก็ต้องบินกลับมาที่เมืองเดิมเพื่อเล่นคอนเสิร์ตต่อ ตอนนั้นรู้สึกเหมือนเป็นศพเลย มันเหมือนความทุกข์ไม่มีที่สิ้นสุด รู้สึกเครียดมาก เพราะหมายจับออกแล้วมันยากกว่าหมายเรียกอีก พอตื่นเช้ามาเราต้องคิดเลยว่า วันพรุ่งนี้อาจจะโดนจับ หัวใจของผมวนอยู่กับเรื่องนี้ตลอดสองปี
เราทำงานในวงการบันเทิงแต่กลับไม่สามารถมีความบันเทิงได้ ร้องเพลงไปแต่หัวใจกลับคิดถึงเรื่องคดี ความจริงไม่เคยคิดว่าจะต้องเจอเรื่องแบบนี้เลย และไม่คิดว่ามันจะเกิดความคุยไม่ได้ขึ้นมา ทำอะไรไม่ได้เลย สิ่งเดียวที่ทำได้คือ ลุกขึ้นมาแต่เช้า หรือบางครั้งไม่ต้องนอนเลยแล้วไปที่สถานีตำรวจซะ หลายครั้งก็ต้องติดอยู่ในคุกศาล ขั้นตอนการขึ้นศาลทำให้เราต้องอยู่ในคุกของศาลซะด้วย มันตลกมาก บางทีพวกเขาก็เป็นแฟนเพลงที่มาเยี่ยมขอให้ร้องเพลงให้ฟัง ตอนนี้มันขำไปแล้ว แต่ตอนที่ก้าวเข้าไปในคุก เรากลับทำหน้าไม่ถูกเลย ไม่อยากให้ใครจำเราได้ และไม่อยากให้ใครพูดถึงเราเลย มันไม่ใช่ที่ที่เราต้องการเลย แต่ก็ยังเชื่อในความยุติธรรม

4. วัดใจ - Silly Fools / เพลงปลุกใจ
เป็นเพลงที่ได้เล่นในคอนเสิร์ตไม่นานมานี้ ซึ่งช่วงหนึ่งในชีวิตผมรู้สึกดาวน์และไม่สามารถหลุดจากสิ่งนั้นได้ ตอนซ้อมกับน้องๆ ก็พูดว่าอยากเล่นเพลงนี้ พอเริ่มร้องเพลงนี้รู้สึกว่าเนื้อเพลงมันทำให้เกิดแรงกระตุ้นบางอย่างขึ้นในใจ ทำให้รู้สึกฮึกเหิมขึ้นมาก เวลาที่เราเล่นคอนเสิร์ตแล้วบางครั้งเราวางเรื่องความทุกข์ไว้ข้างล่างเวทีไม่ได้ แต่เมื่อเพลงนี้เริ่มเล่น มันทำให้เราได้แรงผลักดันบางอย่างที่ทำให้เราผ่านช่วงเวลานั้นไปได้
5. ลม - หนุ่ม กะลา / เพลงที่แต่งจากความคิดถึง
เหตุผลที่เลือกเพลงนี้ก็เพราะว่าเป็นเพลงที่แถมในอัลบั้มเดี่ยวชุดแรกจริงๆ ตั้งแต่เด็กๆ ผมเติบโตมากับเพลงไทยและเพลงลูกทุ่ง คิดว่าหากมีโอกาสคงอยากจะร้องเพลงลูกทุ่งซักเพลง แต่ก็ไม่รู้จะหาจังหวะไหนมาแทรกเพลงลูกทุ่งลงไปได้ พอทำอัลบั้มเสร็จและรู้สึกคิดถึงเพลงลูกทุ่ง ผมเลยแต่งเพลง “ลม” ขึ้นมา แต่ก็ไม่รู้จะจัดวางยังไงในอัลบั้ม
เลยโทรไปปรึกษาพี่ๆ ที่ค่ายว่าจะขอแถมเพลงนี้เข้าไปได้มั้ย กลายเป็น Hidden Track โดยที่ไม่มีชื่อเพลงติดอยู่ด้วยซ้ำ เพราะกลัวแฟนเพลงจะมองว่าเป็นอะไร ไหงเพลงร็อกๆ กลับมีเพลงลูกทุ่งแบบนี้ เลยตัดสินใจแถมไป แต่กลับกลายเป็นว่าผลตอบรับดีเกินคาด เพลง “ลม” กลายเป็นเพลงฮิตติดอันดับ ร้อยล้านไปแบบไม่ทันตั้งตัว วันหนึ่งที่ไปรับรางวัลพระพิฆเนศวร ยังเห็นลุงป้าผู้ใหญ่ในฮอลล์มานั่งเชียร์ แล้วคนในฮอลล์ก็เฮลั่น ตอนนั้นรู้สึกดีใจมาก เพราะมันหมายถึงว่าเพลงที่เราตั้งใจทำสามารถไปถึงคนหลากหลายวัยได้จริงๆ
ตอนทำเพลงนี้ ผมคุยกับทางค่ายว่าแค่ได้ทำในสิ่งที่รักทุกวันก็พอ เพราะไม่คิดว่าจะกลับมาประสบความสำเร็จแบบนี้อีกแล้ว ผมไม่ได้หวังว่าจะดังหรือเป็นศิลปินที่มีชื่อเสียงแค่ได้ทำตามความฝันก็พอแล้ว เมื่อมันชัดเจนและผมได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรักจริงๆ ไม่พยายามจะเป็นใคร และถ้าผมมีโอกาสพูดกับตัวเองในวัย 17-18 ก็อยากจะบอกว่า “เอาให้สุดเลยน้อง”
คลิกเพื่ออ่านข่าว หนุ่ม กะลา เพิ่มเติม